รีวิวThe Batman เดอะ แบทแมน

 

  หนังThe Batman เดอะ แบทแมนในปี 2022 ดูแตกต่างจากแบทแมนเวอร์ชันอื่นๆที่เน้นไปที่ฉากแอคชันและความโสมมของเมืองก๊อตแธม แต่หนังกลับได้เต็มไปด้วยความโหดเหี้ยม ดิบ เถื่อน ที่เคลือบไปด้วยความระหวาดระแวงสงสัย ด้วยภาพสไตล์ฟิล์มนัวร์ ชวนให้นึกถึงการเล่นเกมที่ต้องสืบหาความจริง และไล่จับโจรผู้ร้ายไปด้วย หนังยังคงสภาพการถ่ายทอดความดาร์คของตัวละครแบทแมนได้ ตามแบบฉบับ จักรวาลของโลก DC ซึ่งผู้กำกับแมตต์ รีฟส์ ทำออกมาได้ดีมากจริงๆ

ตลอดเวลา 3 ชั่วโมงของหนัง The Batman มีคำถามผุดในหัวเต็มไปหมด ซึ่งหลายอย่างเราก็คุ้นเคยเหลือเกินทั้งในตัวละคร เพนกวิน, เดอะริดเลอร์, แคทวูแมน, คาร์ไมน์ ฟัลคอน, อัลเฟร็ด, บรูซ เวย์น ฯลฯ ภายใต้บรรยากาศฉ่ำฝน แดดแห้งเหือดของเมืองก็อตแธม และอดีตอันเลวร้ายที่ล่อหลอมให้บรูซ เวย์นเป็นแบทแมนซึ่งถูกเล่ามาจนช้ำจำได้ขึ้นใจ แต่ว่าในร่องรอยความซ้ำหนังก็ยังมีมุมมองใหม่ ๆ มาชำระดวงตาของเราไม่ต่างจากสายฝนที่หล่นลงมาชำระบาปที่เกาะแน่นดั่งฝุ่นโคลนในเมืองก็อตแธม

 

รีวิวThe Batman เดอะ แบทแมน

 

รอคอยเดอะแบทแมนอย่างใจจดใจจ่อมายาวนานในฐานะร็อบสแตนและ(คิดว่าตัวเองเป็น)แฟนดีซี ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ไปดูรอบแรกของวันฉายจบก็ตั้งใจจะเขียนรีวิวทันที จนถึงตอนนี้อารมณ์ความรู้สึกที่เกิดในโรงยังตกค้างอยู่ในอกเราไม่ยอมหายไป แค่นึกถึงความดีงามที่ถูกจริตของหนังเรื่องนี้ใจก็เริ่มสั่นแล้ว รีวิวนี้จึงเขียนถ่ายทอดความรู้สึกกึ่งวิเคราะห์ผ่านมุมคนที่ชอบทั้งตัวนักแสดง ทั้งโปรดักชั่นหนัง และกำลังไฮป์จัดๆ มีสปอยล์ปริมาณมาก และอาจจะมีไบแอสด้วยอย่างอดไม่ได้ แต่การที่หนังทำให้เราและคนจำนวนมากชอบได้ขนาดนี้  ก็สะท้อนให้เห็นว่าหนังประสบความสำเร็จไม่น้อยเลยทีเดียว ดูThe batman คลิก

 

รีวิวThe Batman เดอะ แบทแมน เรื่องย่อ

 

The Batman เริ่มเรื่องมาด้วยความตื่นเต้นสุดขั้วเพราะนอกจากจะเป็นการเล่าเรื่องจากมุมมองของบรูซ เวย์น ผ่านเสียงบรรยายและภาพภารกิจแรกเพื่อกระตุ้นผู้ชมแล้ว มันยังได้พาเราไปเป็นประจักษ์พยานการฆาตกรรมเหยื่อรายแรกที่เป็นถึงนายกเทศมนตรีของก็อตแธมและทุก ๆ ศพ ทุก ๆ การฆาตกรรมก็นำไปสู่ปริศนาสำคัญที่ถูกทิ้งไว้โดยเดอะ ริดเลอร์ ฆาตกรต่อเนื่องที่เน้นฆ่าเฉพาะเหล่านักการเมืองและผู้มีอำนาจในก็อตแธม

โดยทุกครั้งข้อความจะถูกจ่าหน้าซองไปถึงแบทแมนเสมอ และภายใต้หน้ากากของบุรุษแห่งรัตติกาลบรูซ เวย์นเองก็ได้เรียนรู้ว่าบางทีอดีตของพ่อแม่ที่คนยกย่องอาจแปดเปื้อนไปด้วยบาปที่ทำให้เมืองก็อตแธมเดินทางสู่เมืองที่ฉ่ำแฉะไปด้วยเรื่องเลวๆในมุมมืด แทบไม่เห็นแสงสว่าง เวย์นจำเป็นต้องออกแก้ปริศนาให้ได้ก่อนเดอะริดเลอร์จะประสบความสำเร็จ ในขณะเดียวกันที่เวย์นในคราบของแบทแมนก็ได้รู้จักกับเซลินา ไคล์สาวตีนแมวทรงเสน่ห์ที่เป็นกุญแจไขความลับอันดำมืดในเมืองก็อตแธม

สิ่งที่เราต้องชื่นชมแมตต์ รีฟส์ (Matt Reeves) ในฐานะผู้กำกับ เลยก็คือความแน่วแน่ในการเสนอให้หนังแบทแมนฉบับนี้กลายเป็นหนังฆาตกรรมสืบสวนสอบสวน และการได้นำตัวละครที่คนดูคุ้นชื่อคุ้นหูตามที่ผมได้กล่าวไปข้างต้นมาเดินวนเวียนในก็อตแธมฉบับชื้นแฉะที่สุดเวอร์ชันหนึ่งก็ทำให้ภาพแฟนตาซีของหนังฮีโรค่อย ๆ ถูกชะล้างแล้วแทนที่ด้วยกลิ่นคาวเลือดและปริศนามรณะที่เชื้อเชิญคนดูให้ค่อย ๆ คลายปมทีละเปลาะไปกับบรูซ เวย์น

ซึ่งบทที่รีฟส์ได้ร่วมเขียนกับปีเตอร์ เครก (Peter Craig) ก็แสดงให้เราเห็นว่า รีฟส์และเครกไม่เพียงต้องการสร้างให้บรูซ เวย์นเป็นแค่ร่างทรงของแบทแมนเท่านั้น ตรงกันข้ามหัวใจของเรื่องคือบรูซ เวย์นและเรื่องราวในตระกูลเวย์นเองก็กลายเป็นกุญแจดอกสำคัญที่ให้คำตอบว่าทำไมก็อตแธมถึงกลายเป็นเมืองที่พระเจ้าหันหลังได้ขนาดนี้และที่สำคัญมันยังคงหัวใจของเมืองก็อตแธมที่ว่าเมืองที่คอรัปชันกัดกินมันจะสร้างฆาตกรขึ้นมา ดูหนังเดอะแบทแมนที่นี่

และจุดที่หนังเด่นมาก ๆ คือการเพิ่มความสมจริงเข้าไปในเรื่องราวโดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างแบทแมนกับตำรวจที่ไม่สู้ดีนัก และมันก็ดันมีเหตุผลรองรับซะด้วยว่าถ้าหากมีศาลเตี้ยอย่างแบทแมนแล้ว ตำรวจที่บังคับใช้กฎหมายอย่างพวกเขาจะถูกมองว่าเป็นเพียงอาชีพที่มีไว้ประดับให้เมืองดูมีความปลอดภัยแต่ทว่าก็ดันเกิดเหตุฆาตกรรมและกลิ่นอายความกังฉินของคนในเครื่องแบบก็ส่งกลิ่นเหม็นเน่าจนทำให้เกิดเหตุฆาตกรรมเพื่อต่อสู้กับระบบขึ้น

 

รีวิวThe Batman เดอะ แบทแมน

 

ซึ่งนั่นทำให้การปรากฎตัวของเดอะริดเลอร์เลยเป็นเหมือนมีดเล่มโตที่ชำแหละความโสมมที่ก็อตแธมได้ปกปิดไว้ ไปจนถึงการปรากฎตัวของออสวอล์ด คอปเปอร์พอด หรือ เดอะเพนกวินในวันที่ยังเป็นเพียงมือขวาของคาร์ไมน์ ฟัลคอน ที่แม้จะมีบทบาทไม่มากไปกว่าการเป็นแหล่งข้อมูลให้แบทแมนแต่ทว่ามันก็ทำให้เห็นว่าโอกาสที่คนพิการอย่างเขาจะมีได้ก็ต่อเมื่อคนมีอำนาจถูกกำจัดเท่านั้น หรือกระทั่งเซลินา ไคล์เองก็เป็นผลผลิตสำคัญจากระบบอุปถัมภ์อันชั่วช้าสามานย์ของก็อตแธมเช่นกัน

ดังนั้นการฆาตกรรมของเหยื่อแต่ละรายไม่ได้เป็นเพียงเควสต์ที่แบทแมนจะต้องไขให้ออกเพื่อปกป้องเหยื่อรายต่อไปเท่านั้น ตรงกันข้ามคำว่า ‘ยิ่งขุดยิ่งลึก’ ยังน่าจะนิยามความหมายที่ฆาตกรโยนเศษขนมปังให้คนดูตามเก็บได้เป็นอย่างดี และที่สำคัญมันยังทำงานกับคนดูและกล่อมเกลาเราให้เชื่อได้มากพอว่าเรากำลังดูหนังฆาตกรรมที่มีแบทแมนดำเนินเรื่องอยู่จริง ๆ หรือจะให้แปะป้ายให้ชัดเลยก็คือเป็น ‘Seven’ (หนังปี 1995 ของเดวิด ฟินเชอร์ David Fincher) ที่ถูกเพิ่มบรรยากาศเมืองแห่งห่าฝนชำระล้างแบบ ‘Taxi Driver’ (หนังขึ้นหิ้งของมาร์ติน สกอร์เซซี Martin Scorsese) ที่มีแบทแมนและเหล่าตัวละครในคอมิกของ DC อาศัยอยู่ก็ไม่ผิดนัก

แต่ไม่ใช่ว่าเรฟเฟอร์เรนซ์ที่หนังจะอ้างอิงจนกลบเรื่องราวที่มันจะเล่านะครับ ที่จริงแล้วตัวหนังยังครบเครื่องในการเป็นหนังฮีโรแอ็กชันดี ๆ สักเรื่องเพียงแต่มันเติมรสชาติที่แปลกใหม่ของการเป็นหนังสืบสวนที่อาจจะแปลกใหม่สำหรับคอหนังทว่าเป็นสิ่งที่คนอ่านคอมิกแบทแมนคุ้นเคยดีเพราะ DC COMIC ก็ย่อมาจาก Detective Comic ที่บ็อบ เคน (Bob Kane) ได้ให้กำเนิดแบทแมนเป็นตัวละครปฐมฤกษ์ตั้งแต่ปี 1939 ดังนั้นนอกจากเราจะได้เห็นแบทแมน “บู๊” เรายังจะได้เห็นแบทแมน “สืบ” อีกด้วย

รีวิวตัวนักแสดง

 

สารภาพเลยว่าเคนปรามาส Robert Pattinson มาตั้งแต่ตอนที่เขาแสดงหนัง Twilight ที่แข็งปานท่อนไม้เดินได้มีดีแค่หน้าตา  แต่ในเวลาต่อมาเขาได้พิสูจน์ตัวเองมาได้พอตัวแต่เมื่อเขาจะมารับบท Bruce Wayne ก็ยังมองว่าไม่น่าจะใช่  ทว่าเมื่อหนังออกมาขายความต่างไปจากหนัง Batman ที่เคยเป็นมา Robert Pattinson ก็กลายเป็น Bruce Wayne และ Batman ที่มีความต่างแต่มีความเป็นตัวของตัวเอง  เพราะคราวนี้ Bruce Wayne ไม่ใช่มหาเศรษฐีเจ้าสำราญที่ใช้ชีวิตสองหน้า  แต่เป็นคนเก็บตัวใช้ชีวิตปราบเหล่าร้ายเดนทรชนในยามราตรีจนชีวิตดูหยาบกร้านไม่มีเวลา  แน่นอนว่ามันมองเห็นผ่านแววตาที่อยู่หลังหน้ากากและการทาสีดำที่ขอบตา  ที่เมื่อถอดหน้ากากแล้วสีเลอะจนดูจริงที่สุดยิ่งขับเน้นคงวามเป็น Bruce Wayne ที่ผมยาวรกรุงรังได้อย่างดีที่สุดและมันเป็น Bruce Wayne ในแบบของเขาเอง ดูรีวิว The Batman

และเพราะความดิบกร้านจริงจังอย่างที่เอ่ยมา  ตัวละครที่ดูเป็นแฟนตาซีอย่าง Catwoman จึงกลายมาเป็นเน้นมุมของ Selina Kyle มากกว่านางแมวป่า  เมื่อคราวนี้เห็นปูมหลังที่เป็นแรงผลักดันของการมาเป็นนักย่องเบาของเธอชัดขั้น  มีความซับซ้อนมากขึ้นผ่านความสัมพันธ์มากขึ้น  เห็นสถานะของการเติบโตมาอย่างคับแค้นในฐานรากที่สึกสุดของสังคม Gotham และ Zoë Kravitz ก็ทำหน้าที่ได้ดีในการเป็น Selina Kyle ที่มีความเป็นมนุษย์ที่ใกล้เคียงกับการมีตัวตนจริงที่สุด  เพราะแค่ชุดยังเอาหมวกมาใส่ทำให้หูทั้งสองข้างเป็นแค่มุมของหมวกไหมพรมเจาะรู  แต่ส่วนที่ดีที่สุดกลับเป็นการรับส่งกับ Robert Pattinson ได้ดีและลงตัวจนมองเห็นอะไรในแววตาแม้ว่าจะต้องรักษาระยะห่าง  จึงเป็นตัวละครที่ตั้งใจมาต่างอย่างได้ผลเพราะแม้จะไม่ใช่ Catwoman ที่ดีที่สุด  แต่ก็เป็น Selina Kyle ที่ดีที่สุดคนหนึ่งที่เป็นมนุษย์และน่าจดจำ

รีวิวThe Batman เดอะ แบทแมน

ส่วนสำหรับ Paul Dano กับบท The Ridlerใน the batman 2022 ที่สมจริงที่สุดเพราะเป็นคนจริงๆไม่ใช่ตัวประหลาด Paul Dano สามารถถ่ายทอดแรงขับเคลื่อนที่เป็นด้านตรงข้ามกับ Bruce Wayne ในมุมของเด็กกำพร้าเหมือนกันที่ต่างกัน  แม้จะเห็นหน้าเพียงไม่กี่นาทีแต่การมาแค่เสียงที่อยู่ใต้หน้ากากก็เห็นภาพความวิปริตทางจิตชัดเจน  ยิ่งตอนเห็นหน้าแล้วยิ่งขนลุกกับการแสดงเป็นคนโรคจิตที่เรียกร้องความสนใจจนเล่นใหญ่เบอร์นั้น (ส่วนสาเหตุจะเป็นอะไรไปดูกันเอง) กับอีกคนที่ดูแล้วมีเลือดมีเนื้อคือ The Penguin ที่เมคอัพจนถ้าไม่บอกไม่รู้ว่านี่คือ Colin Farrell ที่สร้างความต่างที่เป็นบุคลิกแบบเห็นแล้วหัวเราะไม่ได้ร้องให้ไม่ออกกับความเป็นเขา  ซึ่งการแสดงผ่านสีหน้าเบื้องหลังเมคอัพยังคงทำให้สัมผัสได้โดยเฉพาะฉากที่ถูกมัดแล้วถูก Jim Gordon กับ Batman สอบสวนหลังฉากระเบิดตูมตามก็นับว่าจัดเต็มความสมจริง

ส่วน Andy Serkis ในบท Alfred นั้นดูเหมือนจะรับไม้ต่อมาจาก Sean Pertwee จากซีรีส์ Gotham แบบเนียนๆที่ถ้าได้ดูซีรีส์มาจะเห็นมิติความสัมพันธ์ระหว่างเขากับ Bruce Wayne จนทำให้เมื่อถึงเวลาอาจมีขนลุกน้ำตารินได้  แต่กับ Jeffrey Wright ในบท Jim Gordon นั้นคงเป็นตัวละครเดียวที่ยังไม่เห็นความต่างจากเวอร์ชั่นอื่นๆ  และแน่นอนเขาเป็นเพียงคนเดียวที่ดูขาวสะอาดแต่ก็รับส่งกับ Batman ได้ดีจนเห็นเป็นหนังตำรวจคู่หูกลายๆ  กับงานด้านภาพที่หม่นมืดชื้นแฉะทั้งเรื่องทำให้อารมณ์รู้สึกดิ่งและตึง  แล้วก็ไม่ทราบว่าผู้เขียนเป็นคนเดียวหรือคิดไปเองหรือไม่ที่เห็นโทนเรื่อง  งานดนตรี  หรือกระทั่งจังหวะการเล่าเรื่องดูคล้ายกับ Joker เหมือนจะมีอะไรรับส่งเชื่อมโยงกัน  จนอาจมโนได้ว่า DC อาจวางเกมอะไรไว้หรือไม่อย่างไร  ก็น่าคิด

ความรู้สึกหลังดู The BatMan

 

แบทแมนใช้เวลานานหน่อยกว่าจะกลับมา แต่ในการดู แบทแมน 2022 ก็กลับมา และหนังมีความยาว 2 ชั่วโมง 45 นาที กว่าสามชั่วโมง เรียกได้ว่าโคตรนานเลย ในความคิดเห็นของผู้เขียน นี้คือแบทแมนเวอร์ชันที่ดีที่สุดเท่าที่ผู้เขียนเคยดูเลย

เมื่อคนร้ายพูดว่า ฉันจะนำความวุ่นวายมาสู่เมืองนี้ สิ่งที่น่าสนใจคือความดุดัน ความโกรธ และความรุนแรงที่ปรากฏและฉายชัดในสายตาและสีหน้าของโรเบิร์ต แพททินสันในบทของบรูซ เวยน์ ซึ่งฉบับโนแลน ไม่มีแบบนี้ ฉบับโนแลนจะเป็นแบบ ฉันจะกำจัดแกออกจากเมืองเองด้วยท่าทางนิ่งๆแบบซูเปอร์ฮีโร่สไตล์ comics มากกว่า และเพราะหนังเน้นไปที่การสืบสวนสอบสวนและการตามหาความจริง ความลุ้นของหนังจึงไม่ใช่การกำจัดหรือปราบเหล่าร้าย แต่เป็นการโค่นล้มระบบทั้งระบบอันเป็นต้นเหตุให้เกิดคนชั่วร้ายลงมา

ภาพ เสียง และธีมเพลงเปิดตัว ใน the batman 2022 พากย์ไทย ต้องขอบอกว่าดีสุดๆและเอาออกจากหัวไม่ได้จริงๆหลังดูจบ หนังจึงมีความสนุกแบบซูเปอร์ฮีโร่สำหรับผู้ใหญ่ หรือเด็กที่โตแล้ว ไม่เหมาะกับคนที่ชอบหนังฮีโร่ที่เน้นไปที่ฉากแอคชัน ฉากบู๊ ฉากปราบเหล่าร้าย หรือการที่ฮีโร่ปรากฏตัวออกมาแล้วตื่นเต้นดีใจ

สื่งที่น่าเสียดายในหนังเรื่องนี้คือในช่วงเริ่มต้น หนังปูทางได้สนุกและตื่นเต้นมากๆ ในการชวนให้เราติดตามตอนจบ แต่กลับไม่ได้มีจุดพีคในการไขปริศนา เหมือนหนังดำเนินเรื่องไปเรื่อยๆ และหนังก็จบ ปริศนาสุดท้ายก็ดูเรียบง่ายมากๆ

ยังไงก็ตาม โรเบิร์ต แพททินสัน เป็นแบทแมนที่ดีมากๆในปี 2022 และฉากตัดเชือกลงน้ำ ก่อนออกมาจุดพลุช่วยเหลือคร ก็ทำออกมาได้น่าประทับใจมากๆจนคนดูรู้สึกขนลุกและชื่นชมบรูซ เวยน์เวอร์ชันนี้จริงๆ