รีวิว Three Identical Strangers

ลองนึกภาพ ตามนะครับว่า วันหนึ่ง คุณใช้ชีวิตของคุณไปตามปกติ คุณรู้ดีอยู่แก่ใจว่าพ่อและแม่ของคุณคือใคร คุณรู้ว่าคุณเป็นลูกชายหรือลูกสาวของคนคนนั้น แต่วันหนึ่ง คุณกลับพบใครบางคนที่หน้าคล้ายคุณ พูดคล้าย ๆ คุณ และคิดคล้าย ๆ กันกับคุณอีกต่างหากอย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

และเท่านั้นยังไม่พอ เพราะจริง ๆ แล้วมีใครที่หน้าคล้ายคุณอีกคนหนึ่ง คุณที่เติบโตมาถึงค่อนชีวิตดันเพิ่งจะรู้จัก 2 พี่น้องร่วมสายเลือดเดียวกันกับคุณ และดูเหมือนว่าคุณและพี่น้องของคุณ ทั้ง 3 คนดูเข้าขากันเป็นอย่างมาก เป็นพี่น้องที่แม้คุณจะไม่รู้จัก แต่ก็ดูจะผูกพันกันได้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่สารคดีเรื่องนี้ได้ฉายเปิดตัวในเทศกาลซันแดนซ์เมื่อปี 2018 และเข้าฉายในระบบสตรีมมิงอื่น ๆ ในต่างประเทศ 2 ปีต่อมา สารคดีเรื่องนี้โดยการกำกับของ Tim Wardle ก็ได้ฤกษ์ฉายบนแพลตฟอร์มที่แมสที่สุดในโลกอย่าง Netflix ซะที

แน่นอนว่า เรื่องราวการพบกันของคู่แฝดแท้ ที่มีเหตุให้ต้องพลัดพลากจากกัน แล้วก็กลับมาเจอกันอีกทีตอนที่ทั้งคู่โตแล้วเนี่ย มักจะอยู่ในสกู๊ปข่าวแปลก ๆ หรือคอลัมน์เรื่องเหลือเชื่อบนโลกออนไลน์ให้เราได้อ่านกันอยู่เนือง ๆ อยู่แล้ว

ตัวหนังเริ่มต้นเรื่องในยุค 1980 “บ็อบบี ชาฟราน” เข้าเรียนวันแรกในวิทยาลัยชุมชนซัลลิแวนเคาน์ตี ทันทีที่เขาเข้าไป เขาก็พบความผิดสังเกต เมื่อทุกคนที่เขาไม่รู้จักต่างเดินเข้ามาทักทายอย่างสนิทคุ้นเคย และดันเรียกเขาว่า “เอ็ดดี” แน่นอน เขามีความสงสัยว่า “เอ็ดดีไหนวะ ?” และนั่นคือจุดที่ทำให้เขาได้รู้ว่า เอ็ดดี คนนั้น (ที่ลาออกจากโรงเรียนไปกลางคันแล้ว) มีใบหน้าและน้ำเสียงที่เหมือนกับบ็อบบีมาก ๆ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

แล้วพอยิ่งปะติดปะต่อเรื่องราว เขาทั้งสองก็ได้พบความจริงอีกข้อก็คือ ยังมีคนที่มีใบหน้าเหมือนเขาอีกคน แน่นอนว่าต้องเป็น “เดวิด” ซึ่งก็คือแฝดคนที่ 3 พี่น้องแฝดแท้ร่วมท้องของบ็อบบีและเอ็ดดีนั่นเอง

ด้วยความมหัศจรรย์จากการพบเจอฝาแฝดที่พลัดพรากจากกันโดยบังเอิญ ทำให้พวกเขากลายเป็นที่สนใจของสื่อมากมายในชั่วข้ามคืน พวกเขาแต่งตัวเหมือนกัน พูดเหมือนกัน บุคลิกเหมือนกัน ไปออกรายการทีวีและสัมภาษณ์ลงหน้าหนังสือพิมพ์พร้อม ๆ กัน เรื่องราวของพวกเขากลายเป็นความมหัศจรรย์อันน่าเหลือเชื่อ หลายคนทึ่งในความที่พวกเขาทั้ง 3 มีอะไรที่เหมือนกัน แม้ว่าจะถูกเลี้ยงดูมาด้วยครอบครัวบุญธรรมที่ต่างกันอย่างสิ้นเชิง หลายคนมองพวกเขาเป็น “ข่าวแปลก” ไม่ต่างอะไรกับฝาแฝดอิน-จัน

ตัวสารคดีเองค่อนข้างทุ่มเทกับการเคลือบ 1 ใน 3 ของหนังเรื่องนี้ด้วยจังหวะการเล่าแบบบันเทิงคดีล้วน ๆ ทั้งการแทรกช็อตการแสดงจำลองเหตุการณ์จริง การแทรกฟุตเตจรายการทีวีต่าง ๆ ที่ฝาแฝดทั้ง 3 ได้ไปออก รวมถึงเรื่องราวชีวิตส่วนตัวของพวกเขาที่มีความสุข พวกเขาเหมือนเป็นเพื่อนและพี่น้อง พวกเขาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่ด้วยกัน และแถมยังออกไปเมาเละด้วยกันทุกคืน พวกเขาสนิทกันมาก ๆ จนกระทั่งเปิดร้านอาหารร่วมกันเลยด้วยซ้ำ จนแทบจะเรียกได้ว่า นี่เป็นหนังวัยรุ่นฟีลกู้ดโลกสวยเรื่องหนึ่งได้เลยแหละ

แม้ว่า 3 พี่น้องฝาแฝดทั้ง “โรเบิร์ต ชาฟราน” “เอ็ดดี แกลแลนด์” และ “เดวิด เคลแมน” จะล่วงรู้แล้วว่า พ่อแม่ของทั้ง 3 คน เป็นพ่อแม่บุญธรรมที่รับเลี้ยงพวกเขาแบบเปิดเผย แต่สารคดีก็ไม่ได้หยุดแค่นั้น เพราะกำลังจะนำเราไปสู่เรื่องราวที่กำลังจะดำมืดขึ้นเรื่อย ๆ

 

รีวิว Three Identical Strangers

 

พ่อแม่บุญธรรมทั้ง 3 ครอบครัวรับพวกเขามาเลี้ยงในปี 1961 ผ่านหน่วยงาน “หลุยส์ ไวส์ เอเจนซี” ที่ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่เพียงความลับเดียวเท่านั้น เพราะเมื่อเข้าสู่องก์ที่ 2 ตัวหนังเองก็เริ่มจะพาเราดำดิ่งไปสู่ความมืดมนบางอย่าง เมื่อมีคนสังเกต และตั้งข้อสงสัยว่า

สิ่งที่พาเราไปค้นพบความดำมืดนั้นก็คือ สาเหตุของการจับแยก “แฝดสาม” ออกจากกัน แล้วมอบให้ครอบครัว 3 ครอบครัวที่มีฐานะแตกต่างกันอย่างสุดขั้วเป็นผู้รับอุปการะเลี้ยงดูนี่แหละครับ (ซึ่งขอไม่ลงรายละเอียดนะครับ เดี๋ยวจะสปอยล์) ณ จุดนี้ ตัวหนังเองเริ่มเปลี่ยนทิศทางจากหนังบันเทิงคดีที่ว่าด้วยเรื่องของมหัศจรรย์แห่งชีวิตของแฝด 3 ที่มาเจอกันโดยที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน กลายเป็นสารคดีสืบสวนสอบสวนหาที่มาของพวกเขา และสาเหตุของการจับแยกพวกเขาออกจากกัน

รีวิว Three Identical Strangers

ก่อนที่จะพาเราเข้าไปพบกับสาเหตุอันชั่วร้าย ที่ทำให้โชคชะตาของแฝดทั้ง 3 ต้องไปอยู่ และถูกเลี้ยงดูในครอบครัวที่ต่างกันราวฟ้ากับเหว คนหนึ่งอยู่กับครอบครัวคนรวยฐานะดี การศึกษาสูง คนหนึ่งอยู่กับครอบครัวชนชั้นกลางในเมืองที่แสนจะเป็นมิตร และอีกคนอยู่กับครอบครัวชนชั้นล่างฐานะง่อนแง่นที่แสนจะเคร่งครัดในกฏระเบียบ และเมื่อ ลอว์เรนซ์ ไรท์ นักข่าวและนักเขียน สามารถเข้าถึงข้อมูลบางอย่างที่เป็นสาเหตุของการแยกแฝดสามนี้ได้อย่างลับ ๆ สารคดีเรื่องนี้ก็กลายเป็นสารคดีที่ตีแผ่ด้านมืดของวงการจิตวิทยาไปในทันทีไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

ความดำมืดยังไม่จบเพียงเท่านั้นครับ เพราะตัวหนังยังเล่าถึงผลกระทบอันร้ายแรงของการที่ทั้ง 3 ถูกแยกจากกันและเลี้ยงในครอบครัวที่แตกต่างกัน แม้ว่าทั้งสามคนจะดูสนิทและเข้าใจกันดี แต่การที่ทั้ง 3 คนได้มาเจอกันตอนที่พวกเขาเติบโตแล้ว นั่นจึงส่งผลทำให้พวกเขาได้รับผลกระทบทางด้านจิตใจอย่างที่หลายคนก็ไม่อาจคาดคิด และนั่นก็ส่งผลร้ายแรงในระดับที่ย้อนกลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้อีกแล้วด้วย

หากจะมีข้อสังเกตเล็กน้อยสำหรับสารคดีเรื่องนี้ ก็คงเป็นเรื่องของวิธีการตัดต่อนี่แหละครับ การตัดต่อที่ไม่เรียบร้อยในบางจุดทำให้ตัวหนังมีความสะดุดอยู่นิดหน่อย และรวมถึงบทสรุปของตัวหนังที่อาจจะยังไม่ค่อยอิมแพ็กกับตัวเนื้อเรื่องเท่าไหร่

แต่ก็ต้องถือว่า ตัวสารคดีโดยรวม สามารถถ่ายทอดทั้งด้านสว่างและด้านมืดของเรื่องราวออกมาได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าคุณจะคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริงหรือโกหก ไม่ว่าคุณจะคิดว่าอาจเป็นเรื่องบังเอิญหรือตั้งใจ แต่สารคดีเรื่องนี้ก็อาจทำให้เราคิดต่อได้ว่า

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

เมื่อหลายปีก่อน ฉันสอนวิชาจิตวิทยา และเราได้บรรยายเกี่ยวกับจริยธรรมในการวิจัยทางจิตวิทยาอย่างสม่ำเสมอ เราได้พูดคุยเกี่ยวกับการศึกษาที่ผิดจรรยาบรรณที่มีชื่อเสียงมากขึ้น เช่น การศึกษาในเรือนจำ Zimbardo ที่มีชื่อเสียงหรือการศึกษาเรื่องการเชื่อฟังของ Milgram อย่างไรก็ตาม ในขณะนั้นยังไม่มี “Three Identical Strangers” และการเปิดเผยในภาพยนตร์เรื่องนี้…และน่าเสียดายเพราะเป็นการศึกษาที่ดีในการแยกแยะ ด้วยภูมิหลังของฉัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ฉันจะดูหนังเรื่องนี้เมื่อรู้ว่ามันเกี่ยวกับอะไรไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

และขาดจริยธรรมในการศึกษาไปอย่างสิ้นเชิง และหลายสิ่งหลายอย่างเกี่ยวกับการศึกษานี้ถือว่าผิดจรรยาบรรณโดยสิ้นเชิง…แต่คุณจะต้องเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับสิ่งนั้นเมื่อคุณดูสารคดี เรื่องราวของ “Three Identical Strangers” เริ่มต้นขึ้นเมื่อเด็กหนุ่มอายุ 19 ปี มาถึงวิทยาลัย…เพื่อให้มีคนรู้จักเขามากมายที่นั่น! ตอนแรกเขาคิดว่ามันเป็นแค่โรงเรียนที่เป็นมิตรมาก…แต่ไม่นานก็เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคนนี้มีฝาแฝด ท้ายที่สุด พวกเขาเกิดวันเดียวกัน ถูกรับเลี้ยงผ่านหน่วยงานรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเดียวกัน

และดูเหมือนฝาแฝด พวกเขารู้เพียงเล็กน้อยว่าพวกเขาไม่ใช่ฝาแฝด แต่เป็นสองในสามจากชุดแฝดสาม และเมื่อเรื่องราวของพวกเขาถูกตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ ไม่นานพวกเขาก็รู้ว่ามีคนที่สาม!! ในที่สุด ปรากฎว่าหน่วยงานรับเลี้ยงบุตรบุญธรรมเดียวกันแยกแฝดและแฝดสามหลายชุด ทำไม? เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาทางจิตวิทยาที่เป็นความลับเกี่ยวกับพันธุศาสตร์ อะไร?? ใช่…ครอบครัวไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกของพวกเขามีลักษณะเหมือนกันอีกสองอย่าง…และนี่คือการศึกษาที่ป่วยเกี่ยวกับพันธุศาสตร์และสิ่งแวดล้อม!! จากนี้ไปมันแย่แค่ไหน? แย่จริงๆ….แต่ไม่อยากทำลายหนัง….ดูเอาเอง

 

รีวิว Three Identical Strangers

 

แล้วหนังมันดีไหม? ใช่ มันถูกสร้างมาอย่างดี ไม่น่าเบื่อ และควรค่าแก่การดู สิ่งเดียวที่ฉันพูดเล่นไม่เกี่ยวอะไรกับตัวหนังเลย ปัญหาของฉันคือฉันเห็นมันเมื่อออกอากาศครั้งแรกทาง CNN…และ CNN ก็แสดงได้แย่มาก ภาพยนตร์เรื่องนี้คั่นด้วยโฆษณามากมาย…มากจนดูเหมือนหนึ่งในสามของเวลาที่ฉันกำลังดูอยู่ ฉันกำลังดูโฆษณาอยู่ เลยลองหาดูจากที่อื่น…เช่นผ่าน Netflix ที่โฆษณาไม่ทำลายหนัง

มันคือปี 1980 Bobby Shafran เป็นลูกบุญธรรมและเป็นน้องใหม่ที่วิทยาลัยชุมชน เพื่อนนักเรียนดูเหมือนจะรู้จักเขาด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาค้นพบว่า Eddy Galland ฝาแฝดที่ไม่รู้จักก่อนหน้านี้เคยเข้าเรียนที่วิทยาลัยเดียวกันเมื่อปีก่อน เรื่องราวของพวกเขาเป็นข่าวและกลายเป็นแฝดสามเมื่อ David Kellman ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเรื่องราวเดียวกัน

 

 

พวกเขาเป็นดาราแท็บลอยด์ของนิวยอร์กและคนดังในท้องถิ่น พวกเขาอยู่ด้วยกัน จากนั้นพวกเขาก็แต่งงานกันและเริ่มต้นครอบครัวของตัวเอง พวกเขาเปิดร้านอาหารด้วยกัน เรื่องราวของพวกเขากลับมืดมนยิ่งขึ้นในยุค 90 เมื่อนักข่าวสืบสวนสอบสวนพบการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ที่น่าหนักใจ นี่เป็นสารคดีที่น่าสนใจ แน่นอน

ฉันต้องการเจาะลึกในการศึกษาคู่แฝดและวิธีการที่มันทำ ฉันอยากรู้ว่าใครเป็นใคร เมื่อไร และอย่างไร แม้ว่าฉันจะเข้าใจก้อนเมฆที่มืดมิดที่โอบล้อมคำตอบไว้ มันเป็นหนังที่ยังไม่เสร็จ มีความซ้ำซากจำเจกับความคล้ายคลึงกันของฝาแฝด ฉันต้องการตัดการทำซ้ำบางส่วนและเติมช่องว่างให้มากขึ้น เนื้อเรื่องน่าปวดหัวและซับซ้อน มันน่าสนใจ

สรุปเอาง่าย ๆ การเล่าเรื่องในหลาย ๆ ประเด็นที่ลึกและรอบด้าน เพลงประกอบประณีตและโดดเด่นมาก ๆ แนะนำให้คลิกดูเรื่องนี้เลยโดยไม่ต้องดู Trailer นะครับ จะดีกว่ามาก การตัดต่อมีความไม่เรียบร้อยอยู่บ้างนิดหน่อย ตอนช่วงที่ให้ XXX และ YYY (เซ็นเซอร์ชื่อเพื่อกันสปอยล์) ออกมาเจอหน้ากันตอนท้าย ๆ เรื่อง ถ้าขยายและขยี้ตรงนี้ได้อีกจะอิมแพ็กมาก บทสรุปของหนังยังไม่อิมแพ็กเท่าไหร่เมื่อได้ดู เว็บรีวิวหนัง