รีวิว The Toys That Made Us

เมื่อหลายเดือนก่อน เพื่อนผม(ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ Netflix เลย) ได้สมัคร Netflix ให้ผม พร้อมกับบอกให้ผมลองรีวิวอะไรที่อยู่ใน Netflix ดูบ้าง ซึ่งพูดกันตามตรงนะครับ แม้ Netflix จะ มีอนิเมให้ดูเยอะ แต่ก็ไม่ใช่อนิเมใหม่ล่าสุดอะไรมากมาย ยกเว้นเรื่องที่ Netflix ผลิตเอง (แต่ผมก็ได้ดูหลายเรื่องที่ไม่ได้ดูในรอบ 1-2 ปีนี้ ผ่านทาง Netflix นะ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

แต่อนิเมใหม่ผมดูทาง AIS PLAY มากกว่า) ก็เลยคิดว่า ลองมาดูในส่วนสารคดีของ Netflix ดีกว่า เพราะเอาจริงๆ สารคดีของ Netflix นี่มีอะไรเด็ดๆ เยอะนะครับ และหนึ่งในเรื่องที่ผมชอบที่สุดก็คือ The Toys That Made Us หรือชื่อไทย “ของเล่นเปลี่ยนโลก” ที่ตอนนี้ออกมาให้ดูกัน 2 Season แล้ว

The Toys That Made Us เป็นสารคดีของ Brian Volk-Weiss ที่ผลิตให้กับทาง Netflix โดยเฉพาะ ซึ่งจุดเด่นของสารคดีนี้ก็คือการพูดถึงเรื่องราวของ “ของเล่น” ที่เรารู้จักกันดี ในมุมเจ๋ง ๆ ที่เราไม่เคยรู้มาก่อน ผ่านการเล่าเรื่องที่มีอารมณ์ขันจนเราไม่รู้สึกว่าดูสารดีที่น่าเบื่ออยู่เลย แต่เหมือนดูเรื่องราวพัฒนาการของ “ของเล่น” ที่มีทั้งเสียงหัวเราะ ดราม่าเคล้าน้ำตา ในแบบที่ไม่เคยได้เห็นจากที่อื่นมาก่อน ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

“Star Wars” จากหนังโนเนมที่ฮิตอย่างไม่รู้เรื่อง ทำให้ Kenner บริษัทเล็กๆ ที่ได้ลิขสิทธิ์ของเล่นจากซีรี่ส์นี้มาเพราะค่ายใหญ่ไม่เอาในราคาโคตรถูกกลายเป็นสามล้อถูกหวย แต่สุดท้ายก็ต้องสะดุดตอตัวเองเพราะเผลอทำลิขสิทธิ์หมดอายุด้วยเหตุที่เขาคิดไม่ถึงว่าลูคัสจะกลับมาทำภาคต่อหลังจากหนังจบไปแล้วสิบกว่าปี

“Barbie” ใครจะไปคิดว่า ก่อนที่บาร์บี้จะถือกำเนิดขึ้น เด็กผู้หญิงไม่เคยมีตุ๊กตาที่มีคาแรกเตอร์วัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ไว้เล่นมาก่อน เพราะแนวคิดในยุคก่อนนั้นคือ เด็กผู้หญิงต้องเล่นตุ๊กตาที่เป็นเด็กจะได้เป็นการฝึกหัดเลี้ยงลูก..แถมต้นแบบของบาร์บี้มาจากตุ๊กตาที่เอาไว้ให้ทหารในยุโรปใช้สำหรับ……โอ้ เฟมินิสม์เจ้าขา!

“He-Man” ของเล่นที่สร้างมาแข่งกับสตาร์วอร์ด้วยแนวคิดที่เต็มไปด้วย “กล้าม” ใช่แล้ว ก่อนหน้านั้นเราไม่เคยมีฟิกเกอร์กล้ามโตมาก่อนเลย..ไม่น่าเชื่อใช่ไหม กล้ามเนื้อสุดแกร่งที่ทำให้เด็กๆ  รู้สึกว่ามีพลัง และเพื่อที่จะได้แข่งขันกับคู่แข่งอย่าง SW ได้ เขาจึงต้องมีคอมมิค และการ์ตูนทีวี ซึ่งทั้งหมดเกิดมาแบบที่ไม่ได้วางแผนล่วงหน้ากันมาก่อน..

“G.I. Joe” ตุ๊กตาทหาร ของเล่นสุดฮิตที่เปลี่ยนทัศนคติของเด็กๆ ว่า ไม่ใช่แค่เด็กผู้หญิงที่เล่นตุ๊กตา แต่เด็กผู้ชายก็มีตุ๊กตาในแบบของเขา และไม่ใช่แอ๊กชั่นดอล แต่มันคือ แอ๊กชั่นฟิกเกอร์ ที่เป็นผลพวงของความคลั่งชาติหลังชัยชนะในสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่พอถึงช่วงสงครามเวียดนาม ที่กระแสแอนตี้สงครามลุกลามไปทั่ว..ผู้ผลิตทำอย่างไรถึงทำให้  G.I. Joe ผ่านช่วงนั้นไปได้

รีวิว The Toys That Made Us

“Star Trek” คู่รักคู่แค้นของซีรี่ส์สตาร์วอร์ เรารู้กันดีว่าสตาร์เทรคฮิตแค่ไหน ทว่าในส่วนของของเล่นนั้น สตาร์เทรคกลับไม่บูมอย่างที่คิด แถมยังถูกแฟนๆ ยี้อีก..ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่จะทำให้ของเล่นชุดนี้ถูกใจทั้งเด็กและแฟนๆ ที่เป็นผู้ใหญ่ อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

“Transformers” เป็นตอนที่ผมชอบที่สุด เพราะเราจะได้เข้าใจถึงความสัมพันธ์ระหว่างวงการของเล่นของอเมริกาและญี่ปุ่น ที่ผูกพันกันมาตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่สอง ไล่มาตั้งแต่สมัยที่ญี่ปุ่นเอากระป๋องของอเมริกามาทำเป็นของเล่นสังกะสีของญี่ปุ่นกันเลยทีเดียว

“LEGO” ผมอ่านประวัติเลโก้มาหลายรอบแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนที่ดูสนุกเท่าครั้งนี้ เราจะได้เห็นสิทธิบัตรของเลโก้กันแบบชัดๆ และได้รับรู้ว่าสิทธิบัตรนั้นหมดอายุไปแล้วอีกต่างหาก ตอนนี้ใครๆ ก็ผลิตตัวต่อแบบเลโก้ได้ แต่เลโก้จะสร้างความแตกต่างจากของเล่นคู่แข่งได้อย่างไร ในยุคที่เลโก้ต้องมาแข่งกับวิดีโอเกมและเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ทันโลกอยู่ตลอดเวลา ซึ่งนั่นทำให้เลโก้หวิดๆ จะล้มละลายกันเลยทีเดียว

“Hello Kitty” หนึ่งในคาแรกเตอร์จากญี่ปุ่นที่โด่งดังที่สุดในโลก และทำให้คำว่า คาวาอี้ เป็นที่รู้จัก แต่กว่าซานริโอ้จะยิ้มออกแบบนี่้ บริษัทต้องลองผิดลองถูกมาหลายรอบ แถมคาแรกเตอร์และสินค้าที่สร้างออกมา มันก็ไม่ได้ “ปัง” ทุกตัวเสียด้วย ตอนนี้จะทำให้เราได้รู้ว่าเบื้องหลังความน่ารักนั้น มีอะไรมากกว่าที่คิด

 

รีวิว The Toys That Made Us

 

ปัจจุบันสารคดีชุดนี้ผลิตออกมาแล้วสองซีซัน ซีซันละ 4 ตอน รวมแล้ว 8 ตอนด้วยกัน และล่าสุดมีข่าวว่า Netflix ไฟเขียวให้สร้างต่อซีซัน 3 แล้วด้วยครับ แว่วว่าซีซัน 3 จะมีเรื่องของพาวเวอร์เรนเจอร์ด้วย คราวนี้จะได้รู้เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่าง SABAAN กับโตเอะกันเสียที

และอย่างที่บอกไว้ตอนแรกครับ จุดเด่นของสารคดีชุดนี้ก็คือ ทำให้เรื่องดูยากๆ กลายเป็นเรื่องที่ย่อยง่าย ดูสนุก มีรูปแบบการนำเสนอที่แฝงอารมณ์ขัน แม้บางเรื่องจะเป็นเรื่องที่เราพอจะรู้มาบ้าง (อย่างเลโก้หรือทรานสฟอร์มเมอร์)

แต่พอดูสารคดีชุดนี้ก็ทำให้เราได้เข้าใจความสัมพันธ์ของบุคคลที่เกี่ยวข้องมากขึ้น โดยบุคคลที่ไปสัมภาษณ์ก็ล้วนแต่เป็น Key Person ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมของเล่นทั้งสิ้น และที่สำคัญ ผมเชื่อว่า ถ้าไม่บ้าของเล่นชนิดเข้าเส้นจริงๆ ไม่น่าจะทำสารคดีของเล่นออกมาสนุกแบบนี้ได้หรอกครับ

ดังนั้น..ใครที่มี Netflix อยู่ ก็ลองเปิดมาดูได้นะครับ ผมว่า สารคดีของ Netflix นี่น่าดูกว่าซีรี่ส์หลายๆ เรื่องอีก

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

“The Toys That Made Us” สร้างขึ้นสำหรับซีรีส์ Netflix ที่เพิ่งเปิดตัว อย่างไรก็ตาม ในขณะที่บทนำของแต่ละตอนระบุว่ามีแปดตอน จนถึงขณะนี้มีเพียงสี่ตอนที่ได้รับการเผยแพร่และ IMDB แสดงรายการเพียงเจ็ดตอนเท่านั้น ฉันค่อนข้างแน่ใจว่าเราจะได้เห็นอีกสี่คนในเร็วๆ นี้ และทุกอย่างจะคลี่คลาย ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว The Toys That Made Us

 

นอกเหนือจากอินโทรแอนิเมชั่นที่ห่วยที่สุดเรื่องหนึ่งในประวัติศาสตร์ของรายการโทรทัศน์แล้ว “The Toys That Made Us” ยังสร้างมาอย่างดีและสนุกอีกด้วย บางส่วนเกิดจากพลังของมันในฐานะที่เป็นความคิดถึง แต่เนื่องจากมีความลึกและความเพลิดเพลินในการแสดง การแสดงจึงทำงานได้ดียิ่งขึ้น และเป็นสิ่งที่ผมแนะนำให้คุณดูเป็นอย่างยิ่ง

สี่ตอน (จนถึงตอนนี้) มีดังนี้: ของเล่น Star Wars (ตอนที่ดีที่สุด), Barbie, He-Man (ตอนที่แย่ที่สุด…ส่วนใหญ่เป็นเพราะทีมที่ทำของเล่นดูเหมือนคนเหยียดหยาม) และ GI Joe ทุกสิ่งควรค่าแก่การดูแม้ว่าคุณจะเกลียดของเล่นชิ้นนั้นเนื่องจากการเขียน การตัดต่อ และการโฟกัสที่ยอดเยี่ยม คุ้มค่าแก่การดูและทำได้ดีมาก

แม้ว่าสารคดีแปลก ๆ เรื่องนี้จะเป็นช่องเฉพาะสำหรับพวกเนิร์ด นักสะสมและเราที่โตมากับของเล่น – เด็ก ๆ ในยุค 1970 และ 1980 – แล้วมีความคิดถึงมากมายที่นี่

เป็นเรื่องสนุกที่ได้เรียนรู้เกี่ยวกับบริษัทต่างๆ เช่น Kenner, Hasbro และ Mattel และรับฟังแนวคิดเกี่ยวกับแนวคิด ทั้งขึ้นและลง ความสำเร็จและความล้มเหลว และอื่นๆ

มันท่วมท้นไปด้วยข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ฉันต้องซึมซับขณะนั่งดู “ของเล่นที่ทำให้เรา” แต่สำหรับคนเนิร์ดเก่าอย่างฉันมันคุ้มค่าที่สุด

 

รีวิว The Toys That Made Us

 

นี่เป็นการผสมผสานที่ดีของภาพสมัยของเล่นโบราณและรวมกับภาพเหตุการณ์ในปัจจุบันข้อมูลจริงมีน้อยและมีเสียงรบกวนมาก ส่วนใหญ่มักเป็นเรื่องซุบซิบจากผู้ที่เกี่ยวข้องกับประเด็นนี้

แต่จะเห็นได้จากความตื่นเต้นของผู้ชมเป้าหมาย นี่คือสิ่งที่พวกเขาคาดหวัง โดยปกติแล้วภารโรงที่ทำความสะอาดห้องแล็บทุกคืนจะพูดถึงความคิดของหัวหน้าห้องแล็บ และสิ่งที่ภารโรงบอกโดยเด็กส่งของในขณะที่สูบบุหรี่ระหว่างพัก แน่นอนว่ามีความเชื่อมโยง แต่ไม่ใช่กับข้อเท็จจริง

ฉันชอบตอนที่เกี่ยวกับ He- Man มากที่สุด ผู้ผลิตกล่าวว่าพวกเขารู้ว่าพวกเขามีความคิดที่แยบยลอย่างยิ่ง และเด็ก ๆ จะไม่มีโอกาสได้รับโอกาสเมื่อ He-Man ตะโกนว่า “ฉันมีอำนาจ!” และพวกเขาพูดถูกจริงๆ

เพราะฉันจำได้เมื่อตอนที่ฉันยังเป็นเด็กในยุค 80 และเล่นกับพี่ชายของฉัน ฉันจะแกล้งทำเป็นว่าเป็น He-Man และตะโกนในสิ่งเดียวกัน สิ่งที่ดีเกี่ยวกับสารคดีนี้คือเราได้ทราบเรื่องราวภายในเกี่ยวกับวิธีการสร้างหุ่นและตุ๊กตา

จากนั้นเราก็ได้เห็นว่าในท้ายที่สุดแล้วยอดขายลดลงอย่างไรและพวกเขาก็เข้าสู่ความมืดมน แน่นอนในหมู่นักสะสมหลายคนยังคงมีค่า เว็บรีวิวหนัง