รีวิว The Fighter

รีวิว The Fighter

แรกเห็นใบปิดเรื่อง The Fighter 2 แกร่งหัวใจเกินร้อย เห็นภาพดารานำ 2 คนก็รู้แล้วว่าเป็นหนังเกี่ยวกับหมัด ๆ มวย ๆ เป็นแน่ ซึ่งยอมรับตามตรงว่าไม่ค่อยสนใจกับกีฬามวยสักเท่าไหร่ ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

แต่หลังจากที่ได้เคยดู Million Dollar Baby นอกจากได้นักแสดงแถวหน้าของฮอลลีวู้ดมาแสดงแล้ว เนื้อหาของหนังก็โดนใจอย่างแรง และเมื่อมาถึงเรื่อง The Fighter เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันที่ทำให้คนที่ไม่เคยชื่นชอบกีฬาหมัด ๆ มวย ๆ หันมาดูแล้วเทใจให้กับนักมวยทั้งสองคนนี้แบบเต็มหัวใจ

The Fighter หรือ 2 แกร่งหัวใจเกินร้อย เป็นการนำเสนอแง่มุมชีวิตจริงของนักชกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต “ไอริช” มิคกี้ วาร์ด (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) ผู้ไม่เคยชนะในสังเวียนไหนเลย แม้แต่ในสังเวียนแห่งชีวิต เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด และพยายามฮึดสู้อีกครั้ง

โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ชื่อ ดิ๊กกี้ (คริสเตียน เบล) เป็นเทรนเนอร์ให้ ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ (เมลิสซ่า ลีโอ) บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการเสมอ โชคยังดีที่เขาได้พบกับชาร์ลีน

(เอมี่ อดัมส์) แฟนสาวที่เปิดให้เห็นถึงความจริงว่า ภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว ที่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนผืนผ้าใบแห่งนี้

การนำเสนอเรื่องราวของ The Fighter นั้น เริ่มต้นที่รายการทีวี HBO ต้องการเกาะติดชีวิตติดยาของ “ดิ๊กกี้” อดีตนักมวยที่เคยล้ม “ชูการ์เรย์ เลียวนาร์ด” นักชกมีชื่อได้ โดยทางรายการเป็นแหล่งเงินทุนให้กับ ดิ๊กกี้ ในการเสพย์ยา

โดยที่เจ้าตัวไม่ได้รู้เรื่องรู้ราวเลยว่า การทำเช่นนั้นของรายการทีวีคือการเปิดโปงชีวิตขี้ยาของตน? ซึ่งตัว ดิ๊กกี้ เองนึกไปว่าทางรายการมาเก็บภาพเพื่อการคืนกลับสู่สังเวียนมวยและการกู้ชื่อเสียงให้แก่ครอบครัว

โดยในส่วนการนำเสนอส่วนนี้ เป็นคล้าย ๆ กับเรียลลิตี้ ในตอนต้นเรื่องเป็นเหมือนการเกริ่นนำเข้าเรื่องราวอันแท้จริงของหนัง ซึ่งออกไปทางน่าเบื่อนิด ๆ แต่ผู้กำกับ “เดวิด โอ รัสเซล” ก็

 

 

สามารถพลิกสถานการณ์ความน่าเบื่อนี้ให้คนดูพยายามเอาใจช่วยตัวละครให้สามารถกู้สถานการณ์อันเลวร้ายนั้นไปให้ได้ นั่นคือเกิดความกดดันตัวละคร และทำให้คนดูอย่างเรา ๆ คอยลุ้นทุกวินาทีถึงการแก้ไขเหตุการณ์นั้น ๆ ให้ผ่านพ้นไป ด้วยจังหวะ ชั้นเชิง มุมกล้องที่ถ่ายทอด ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สามารถตรึงคนดูให้จดจ่ออยู่บนจอได้อย่างไม่ขยับลุกไปไหน

ส่วนของนักแสดงทั้ง มาร์ก วอห์ลเบิร์ก และ คริสเตียน เบล ที่รับบทเป็น “มิกกี้” และ “ดิ๊กกี้” ต่างก็ทำให้ทุกคนเชื่อว่าเขาทั้งสองคือนักมวยได้อย่างไม่มีที่ติ ไม่ว่าจะเป็นมัดกล้าม ท่าชก (ถึงแม้จะดูไม่ค่อยออก) ก็ดูสมจริงสมจัง

เคยได้ยินมาว่านักแสดงมืออาชีพส่วนมาก เวลาได้รับบทเป็นใครแล้ว เขาก็จะเรียนรู้และหาทางพัฒนาตัวเองให้กลายเป็นแบบนั้นด้วยการเข้าไปคลุกคลีและสัมผัสวิถีชีวิตความเป็นอยู่แบบนั้นเลย) และที่ต้องยกนิ้วให้กับการแสดงของ

“คริสเตียน เบล” ในบทบาทคนขี้ยาที่ทำได้เนียน สมจริง น่าจะรวมถึงการแต่งหน้าเอฟเฟกซ์ด้วยที่ทำให้เราดูแล้วรู้สึกว่าเขาคือ ดิ๊กกี้ ขี้ยา และที่ขาดไม่ได้คือบทบาท “แม่” ของทั้งสอง ที่นำแสดงโดย เมลิสซ่า ลีโอ ที่แสดงให้เรารู้สึกได้ว่าเธอทำทุกวิถีทางเพื่อดิ๊กกี้ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

แต่สำหรับมิกกี้ เธอไม่เคยแคร์ ซึ่งตัวเธอในฐานะแม่ไม่เคยรู้ตัวมาก่อน จนกระทั่ง มิกกี้ เป็นคนบอกเธอในที่สุด สมแล้วที่เธอได้รับรางวัลลูกโลกทองคำในปีนี้? ส่วนการแสดงอีกบทบาทหนึ่งของ มาร์ก วอห์ลเบิร์ก ก็คือการเป็นน้องชายที่รักและเทิดทูนพี่ชายเหนือสิ่งอื่นใด ไม่ว่าพี่ชายของตนจะทำผิดกี่ครั้งก็มักให้อภัยเสมอ

และที่สำคัญการนำเสนอหนังเรื่องนี้คือความใส่ใจของผู้กำกับที่ให้เครดิตแก่เจ้าของเรื่องนี้ นั่นคือ มิกกี้ วาร์ด และ ดิ๊กกี้ ที่นำทั้งสองเข้ามาร่วมในการทำงานเรื่องนี้ในตอนท้ายเรื่องด้วย

จากที่กล่าวมาทั้งหมดนอกจากตัวนักแสดงหลัก ๆ แล้วตัวนักแสดงประกอบต่างก็มีส่วนร่วมช่วยทำให้อรรถรสของหนังดูมีความสมดุล เข้มข้น และเข้าใจถึงวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของนักมวยผู้นี้ได้อย่างเข้าใจขึ้นมาอีกนิด (เพราะเราต่างกันคนละวัฒนธรรม และซีกโลก)

หนัง The Fighter เป็นหนังดราม่าที่มีแง่มุม แนวคิด ที่น่าสนใจ และทำให้คนดูเรียนรู้ไปกับตัวละคร พร้อมเอาใจช่วยให้พวกเขาฝ่าฟันไปจนถึงฝั่งฝันให้จงได้ เพราะโลกนี้…อุปสรรคทั้งหลายมีไว้ให้ก้าวข้าม…เป็นอีกเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับคนเราไม่ให้ย่อท้อต่อโชคชะตา

ภาพยนตร์ดราม่าที่มีแนวคิดน่าสนใจ และยังทำให้คนดูเรียนรู้ไปกับตัวละคร แถมยังเป็นอีกเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับเพื่อนมนุษย์ที่ไม่ควรย่อท้อต่อโชคชะตาอีกด้วยใน The Fighter เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย อีกหนึ่งหนังฮิตติดกระแสตลอดกาลที่ไม่ควรพลาดชม

รีวิว The Fighter

เรื่องย่อ The Fighter เดอะ ไฟท์เตอร์ 2 แกร่ง หัวใจเกินร้อย เรื่องราวชีวิตจริงของนักชกรุ่นไลต์เวลเตอร์เวต ไอริช มิคกี้ วอร์ด ผู้ไม่เคยชนะในสังเวียนไหน แม้แต่ในสังเวียนแห่งชีวิต เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

และพยายามฮึดสู้อีกครั้ง โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ชื่อ ดิ๊กกี้ เป็นเทรนเนอร์ให้ ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการเสมอ โชคยังดีที่เขาได้พบกับ ชาร์ลีน แฟนสาวที่เปิดให้เห็นถึงความจริงว่า ภาระที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาคือความรับผิดชอบที่มีต่อครอบครัว ที่กลายมาเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนผืนผ้าใบแห่งนี้

สร้างจากเรื่องจริงของนักชกรุ่น Light Welterweight “ไอริช” Micky Ward (รับบทโดย Mark Wahlberg) ผู้ชนะน้อยครั้งในแต่ละสังเวียน แม้แต่ในชีวิตจริงก็ตามที เขาหวังที่จะเอาดีในการเป็นนักมวยมาตลอด

และพยายามฮึดสู้ทุกครั้ง โดยมีพี่ชายขี้ยาต่างพ่อที่ Dicky Eklund (รับบทโดย Christian Bale) เป็นเทรนเนอร์ให้ . . ตลอดชีวิตเขาถูกแม่บงการ (รับบทโดย Melissa Leo) บังคับให้ดำเนินชีวิตตามที่เธอต้องการอยู่เสมอ

แต่แล้วเมื่อเขาต้องพบกับ Charlene Fleming (รับบทโดย Amy Adams) ที่ต่อมากลายเป็นแฟนสาว และพูดถึงสิ่งฉุดรั้งชีวิตเขาอยู่ เธอพยายามให้เขาเดินออกมาและใช้ชีวิตด้วยตนเอง เพราะมันเป็นอุปสรรคสำคัญของการก้าวขึ้นสู่แชมป์บนสังเวียนนี้ !!

ผลงานกำกับของ David O. Russell ผู้กำกับเลือกทำผลงาน ที่ตลอดชีวิต 56 ปีของเขา นั่งแท่นเป็นผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องยาวมาแล้วเพียง 7 เรื่องเท่านั้น The Fighter ถือเป็นผลงานก่อนหน้า Silver Linings Playbook และ American Hustle ที่ส่งประกวดขึ้นสังเวียนท้าชิงมาแล้วมากมาย
.

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

ฉันชอบที่จะรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับมิกกี้วอร์ดและครอบครัวของเขา อย่างไรก็ตาม ในตอนท้ายของหนัง คุณจะเห็นมิกกี้ตัวจริงและน้องชายของเขา ดังนั้นฉันคิดว่ามันถูกสร้างขึ้นด้วยความร่วมมืออย่างสมบูรณ์ของครอบครัว ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

แม้ว่าทั้งครอบครัวจะดูบ้าๆ บอๆ เกือบ 100% – อาจจะบ้าเกินไปสำหรับ “The Jerry Springer Show” ที่บ้าไปแล้ว!! อย่างไรก็ตาม เมื่อฉันดูบนอินเทอร์เน็ต ฉันไม่พบสิ่งใดที่ยืนยันหรือหักล้างการแสดงภาพคนเหล่านี้ได้ หากนี่เป็นภาพเหมือนจริง อาจเป็นข้อโต้แย้งที่ยอดเยี่ยมสำหรับการคุมกำเนิดแบบย้อนหลังหรือการไถ่ถอนส่วนบุคคล ให้เลือก

“The Fighter” เป็นภาพยนตร์เกี่ยวกับแชมป์มวยที่ค่อนข้างคลุมเครือ (อย่างน้อยก็จนถึงภาพยนตร์เรื่องนี้) จากปี 2000 Mickey Ward แม้ว่าการกลับมาของเขาจะสร้างแรงบันดาลใจ แต่เหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่องนี้น่าสนใจก็คือ

เห็นได้ชัดว่าเขาได้รับการเลี้ยงดูจากครอบครัวที่ไม่สมบูรณ์ที่สุดครอบครัวหนึ่งที่ฉันเคยเห็นในภาพยนตร์ เมาคลีได้รับการเลี้ยงดูมาในครอบครัวที่ดีกว่าครอบครัวนี้ อย่างน้อยก็ตาม กับภาพยนตร์ ฉันพูดได้มากกว่านี้ แต่คุณต้องดูหนังเรื่องนี้จริงๆ มันบอกได้ทุกอย่าง

แม่ของวอร์ด (เมลิสซา ลีโอ) และน้องชาย (คริสเตียน เบล) ตัวจริงค่อนข้างเข้มข้นและน่าสนใจ ทั้งคู่ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิง/นักแสดงออสการ์สำหรับส่วนของพวกเขา ฉันไม่ประทับใจการแสดงของลีโอเท่าไหร่ การร้องกรี๊ดและการแสดงที่ไร้ค่านั้นน่าสนใจ

แต่นั่นก็เป็นเพียงตัวละครที่แสดงออกมาเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เบลน่าทึ่งมาก เช่นเดียวกับภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเขา คุณไม่สามารถได้ยินสำเนียงภาษาเวลส์โดยธรรมชาติของเขาเลย

 

 

แต่สิ่งที่ทำให้ฉันประทับใจจริงๆ คือสิ่งที่เขาทำเพื่อแสดงเป็นตัวละครตัวนี้ ซึ่งก็คือการลดน้ำหนักทั้งหมดเพื่อให้ดูผอมแห้งเหมือนคนหัวแตก นอกจากนี้ เขายังแสดงการแสดงที่หลากหลายในภาพยนตร์อีกด้วย แค่การแสดงก็คุ้มแล้ว

สำหรับ Amy Adams ในภาพยนตร์เรื่องนี้ นี่ไม่ใช่ Amy Adams จาก “Enchanted”! อันที่จริง มันห่างไกลจากบทบาทนี้หรือจาก “Julie and Julia” เท่าที่คุณจะหาได้ เพราะเธอเล่นเป็นตัวละครที่ดูเป็นธรรมชาติ หยาบคาย

และบางครั้งก็ไม่เป็นที่พึงปรารถนาอย่างมาก นอกจากนี้ การเห็นเธอในชุดชั้นในยังทำให้ฉันตกใจนิดหน่อย—ฉันแค่คิดถึงเธอในฐานะเจ้าหญิงดิสนีย์ที่เสียสติไปแล้ว! เธอแสดงได้ดีในภาพยนตร์ ไม่เหมือนที่ฉันคาดไว้

เห็นได้ชัดว่า Mark Wahlberg อำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้และแสดงนำด้วย เขาเป็นคนดี แต่บอกตรงๆ ว่าเขาไม่มีอะไรให้ทำมากนักในหนังนอกจากเรื่องบ็อกซ์

และปล่อยให้ความวุ่นวายทั้งหมดเกิดขึ้นรอบตัวเขา ในทางใดทางหนึ่งเขาก็ไม่มีใครสังเกตเห็นเพราะมีการแสดงที่เหนือชั้นมากมายรอบตัวเขาในทุกนาทีที่เขาอยู่ในภาพยนตร์ เว็บรีวิวหนัง