รีวิว Patch Adams

เรื่องราวในช่วงปี ค.ศ. 1996 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉาย นำแสดงโดยโรบิน วิลเลียม นำเสนอเค้าโครงเรื่องราวในชีวิตจริงของนายแพทย์แพท อดัม หลังจากนั้น อย่างน้อยในเมืองไทย ดูได้ที่ ดูหนัง

 

รีวิว Patch Adams

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถูกใช้ในฐานะสื่อการสอนถึงการเรียนรู้ระบบการแพทย์ที่ต้องการมิติความเป็นมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างการรักษาพยาบาลที่คำนึงถึงคนไข้มากกว่าตัวโรคหรืออาการ ท่าทีของหมอที่พึงมีกับผู้ป่วย รวมถึงประเด็นเรื่องความตายและการตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยระยะสุดท้าย

ฉากเปิดเรื่อง เริ่มด้วยคำบรรยายอารมณ์ ความรู้สึกของตัวเอกระหว่างเดินทางเพื่อเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช ท่าทีที่ดูหม่นหมอง ไร้ความสุข แพทเลือกพาตัวเองมาที่นี่เพื่อป้องกันตนเองจากความรู้สึกอยากฆ่าตัวตาย เขาใช้คำว่าชีวิตของตนเหมือนบ้านที่โดนพายุโหมกระหน่ำ เหมือนมีพายุมาควบคุมจิตใจให้เขาไร้ความสุข ไม่อยากมีชีวิต เราจะเห็นสภาพความเป็นอยู่ของโรงพยาบาลในยุคนั้นที่สุมรวมไว้ด้วยคนไข้วิกลจริต

ผู้ดูแลที่ต้องใช้กำลังควบคุมผู้ป่วย หมอที่พูดคุยกับคนไข้โดยเลือกดูข้อมูลในเอกสารมากกว่าการสบตาหรือสื่อสัมพันธ์รับรู้บุคคลตรงหน้า เป็นสภาพที่ชวนอึดอัดคับข้อง แต่ ณ ที่แห่งนี้ แพทได้พบคำตอบที่เป็นเหมือนแสงสว่างให้กับชีวิตของเขา

เขาพบว่าคนไข้ต้องการความเข้าใจ และความเข้าใจนี้อาจไม่สอดคล้องกับความจริงซึ่งมีหลายชุด และความจริงของคนคนหนึ่งอาจจะไม่ใช่ความจริงของอีกคนก็ได้ สิ่งที่แพทพบจากประสบการณ์ของตนเองคือ เราทุกคนต่างต้องการ “การรับฟัง” แพทยังได้เรียนรู้จากที่นี่ด้วยว่า สิ่งที่ถูกมองว่าเป็นปัญหา เบื้องหลังปัญหามีคำตอบหรือทางเลือกอื่นๆ ซ่อนอยู่ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว Patch Adams

 

วันแรกที่เขามาอยู่ในโรงพยาบาลแห่งนี้ คนไข้ท่าทางดูก้าวร้าว รุกล้ำ พุ่งเข้าหาแพทพร้อมชู 4 นิ้วตรงหน้า พลางตั้งคำถามคาดคั้นคำตอบว่าเขาเห็นกี่นิ้ว แพทตอบ 4 นิ้วพร้อมท่าทีหวาดๆ ว่าจะมีอะไรตามมา สิ่งที่แพทพบคือ ท่าทางผิดหวังในคำตอบของอีกฝ่าย และแพทได้พบคำตอบในเวลาต่อมาว่า หากเรามองทะลุไปเบื้องหลังนิ้วทั้ง 4 ที่กางตรงหน้า เราอาจเห็นอะไรมากกว่า 4 นิ้ว

แพทเดินออกจากโรงพยาบาลจิตเวชพร้อมกับแรงบันดาลใจที่จะเป็นแพทย์เพื่อช่วยเหลือคนไข้ น่าสนใจว่าคนเขียนบทสื่อประเด็นสำคัญให้ตัวเอกพบคำตอบของชีวิตในสถานที่ที่คาดไม่ถึง นั่นคือโรงพยาบาลจิตเวช แท้จริงคำตอบมีในตัวแพทอยู่แล้ว สถานที่เป็นเพียงองค์ประกอบให้คำตอบปรากฏตัวขึ้น เขามีความสุขกับการเลือกอาชีพนี้

และพบว่าชีวิตในโรงพยาบาลจิตเวช คนที่มีอำนาจกำหนดชีวิตของเขาคือตัวเขาเอง ไม่ใช่หมอที่จะมาบอกว่าเขาป่วยหรือไม่ป่วย เป็นหรือไม่เป็นคนไข้ แพทรับรู้ประสบการณ์การเป็นคนไข้ว่า ถึงจะเป็นผู้ป่วยแต่เขาก็ต้องการได้รับความเข้าใจ การรับฟัง และความเคารพ

แล้วแพทก็เดินเข้าไปเป็นนักศึกษาแพทย์ในสถาบันการแพทย์ชั้นนำ แล้วสิ่งที่เขาพบคือ

บรรยากาศเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม จริงจัง มีจารีตประเพณี วัฒนธรรมในสังคมหมอที่ต้องถือปฏิบัติ คำสั่งหรือคำอธิบายของอาจารย์แพทย์คือสิ่งที่ถูกต้อง คนไข้ถูกรับรู้และเรียกขานระหว่างหมู่แพทย์กับพยาบาลด้วยอาการเจ็บป่วย หรือหมายเลขของเตียงคนป่วย การพูดคุยถึงอาการเจ็บป่วยและการพยากรณ์โรค แพทย์สามารถพูดคุยโดยอิสระ

ไม่ได้ใส่ใจกับอารมณ์ความรู้สึกของคนไข้ บรรยากาศการรักษาเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม จริงจัง คนไข้แม้จะเป็นเด็กก็ต้องอยู่ในระบบระเบียบ กฎเกณฑ์ของโรงพยาบาล คือ อยู่ในความเรียบร้อย อาการเจ็บป่วย โรคคือสิ่งที่ต้องเอาชนะ ความตายคือสิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง เป้าหมายของแพทย์คือการเอาชนะโรคร้ายและความตายได้

 

 

แต่สิ่งที่แพทนำเข้ามาในระบบแบบแผนที่เป็นอยู่เดิม คือ เสียงหัวเราะ อารมณ์ขันที่ท้าทาย ก่อกวน และสร้างความขัดแย้งให้กับสถาบันการแพทย์ ท้าทายความคิดความเชื่อเดิมๆ ที่สถาบันแพทย์มีต่อโรค ต่อคนป่วย ทันทีที่นักศึกษาแพทย์แพท อดัม เห็นเด็กน้อยที่กำลังนอนป่วยกับอุปกรณ์สวนทวาร แพทกลับมองเห็นในฐานะตัวช่วยสร้างอารมณ์ขัน โดยการตัดปลายและนำมาคลีบหนีบจมูกเหมือนที่ตัวตลกใช้ พูดคุยเย้าแหย่สร้างเสียงหัวเราะให้เด็กๆ

แพทเข้าหาผู้ป่วยระยะสุดท้าย ใส่ใจรับฟัง พูดคุยอย่างมีเมตตา และพร้อมที่จะเอื้อเฟื้อเติมเต็มความความปรารถนาสุดท้ายของผู้ป่วยระยะท้ายบรรลุผล แม้แต่กับคนไข้ที่ปิดประตูความสัมพันธ์ยากที่จะเข้าหา แต่ แพทก็มองเห็นความโหยหาและต้องการความสัมพันธ์ เขาเลือกที่จะเข้าหาโดยไม่ลดละเพราะใส่ใจต่อคุณภาพชีวิตของคนไข้

บทสนทนาที่แพทย์ฝึกหัดแพทสื่อสารกับบรรดาแพทย์ผู้ใหญ่ในโรงเรียน ในสภาการแพทย์ คือ หมอเห็นโรคร้าย เห็นอาการป่วยในตัวคนไข้ แล้วมองเห็นคนไข้ไหม การต่อสู้เอาชนะโรคอาจมีแพ้หรือชนะ แต่การใส่ใจคุณภาพชีวิตของคนไข้ต่างหากที่มีแต่ชัยชนะ ไม่มีใครพ่ายแพ้ ความตายเป็นสิ่งที่มีอยู่จริง ไม่มีประโยชน์ที่จะหลีกหนีหรือมุ่งเอาชนะจนหลงลืมตัวคนไข้ฃ

รีวิว Patch Adams

แพท อดัม แพทย์ฝึกหัดนำความคิดสร้างสรรค์ อารมณ์ขัน ความทะลึ่งตึงตังเข้ามาในสถาบันการแพทย์ ท้าทายบรรทัดฐานความเคารพเชื่อฟัง ความศักดิ์สิทธิ์ของสถาบันการแพทย์ในฐานะดินแดนศักดิ์สิทธิ์ กุมชะตาชีวิตและความเจ็บป่วยของคนไข้ อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

แพทกลับสร้างบรรยากาศหยอกล้อ จิกกัด ฉากการจัดตบแต่งสถานที่ประตูทางเข้าหอประชุมให้เป็นหว่างขาของผู้หญิง สร้างเสียงหัวเราะ หรืออาจจะสร้างความอึดอัด รับไม่ได้ ก็ขึ้นกับมุมมองที่มีต่อสถานภาพของแพทย์และสถาบันการแพทย์ของแต่ละคน ภายใต้บรรยากาศหยอกล้อ ขบขัน ตลก สนุกสนาน หมอกับคนไข้ก็ไม่ต่างกัน มีความเท่าเทียมกัน ต่างกำเนิดจากช่องคลอดของเพศแม่

เราต่างเป็นมนุษย์ที่ล้วนต้องการความสุข ความสนุกสนาน แต่ในอีกแง่ แพทก็นำพาความขัดแย้งเข้ามาในสถาบันการแพทย์ด้วย การท้าทายต่อผู้มีอำนาจในสถาบัน กลายเป็นมูลเหตุให้แพทถูกขับไล่ แต่ความเป็นภาพยนตร์สไตล์ฮอลลีวู้ด ผู้อ่านคงเดาทางได้ว่าจะลงเอยอย่างไร

ท่วงทำนองของภาพยนตร์แม้จะดูสนุกสนาน แต่คนเขียนบทอาจเข้าใจถึงจิตวิทยาในด้านอารมณ์ความรู้สึก ในเรื่องราวตัวเอกต้องเผชิญกับการสูญเสียบุคคลที่ตนรัก การได้เผชิญหน้ากับการสูญเสีย ความเศร้า ความเจ็บปวด แทบทำให้ตัวเอกต้องการเลิกราความฝัน ความปรารถนา ในเรื่อง แพทได้พบประสบการณ์ทางจิตวิญญาณราวกับการได้สื่อสารถึงความรัก ความปรารถนาดีที่ผู้จากไปส่งมอบให้ นั่นทำให้แพทได้กลับมาตั้งหลักชีวิตและสานต่อความฝันของตนได้ต่อไป

ในความทุกข์ยาก เสียงหัวเราะคือความกล้าหาญ ในความเศร้าความเจ็บปวด การยอมรับและเผชิญหน้าคือความเข้มแข็ง

นักแสดงหลักคือ โรบิน วิลเลียม ถ่ายทอดบทบาทความเป็นแพท อดัม ออกมาได้ราวกับชีวิตจริง น่าเสียดายและน่าอาลัยกับการจากไปของนักแสดงผู้นี้ ภาพยนตร์ทำให้นึกถึงช่วงเวลาที่เปล่งประกายของนักแสดง เหมือนกับเราทุกคนต่างมีช่วงเวลาที่เปล่งประกาย และวันหนึ่งก็ค่อยๆ ดับแสง นั่นคือเรื่องธรรมดา

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

ฉันเห็น Patch Adams ขณะที่ฉันสนใจเรื่องนี้ และฉันชอบ Robin Williams และภาพยนตร์ส่วนใหญ่ของเขา Patch Adams ไม่ใช่หนังที่ดีที่สุดของเขานัก แต่มันอยู่ที่นั่นและมีการแสดงที่ดีที่สุดอย่างหนึ่งของเขา ภาพยนตร์เรื่องนี้บางครั้งก็มีน้ำตาลขมเล็กน้อยและลักษณะของคณบดีก็ถูกทำให้ตายตัวในความรู้สึก ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

อย่างไรก็ตาม วิลเลียมส์ได้รับเลือกให้มารับบทนำได้อย่างสมบูรณ์แบบ และฟิลลิป ซีมัวร์ ฮอฟฟ์มันน์ก็ทำหน้าที่สนับสนุนได้อย่างยอดเยี่ยม ภาพยนตร์เรื่องนี้ดูดีไม่น่าเบื่อและตอนจบก็น่าจดจำ ซาวด์แทร็กนั้นผ่อนคลายและเหมาะสมในขณะที่ไม่เคยสงบลงและมีพลังมากเกินไป และตัวละครโดยเฉพาะอดัมส์ก็ถูกกำหนดไว้อย่างดี

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวที่น่าประทับใจและน่าจดจำด้วยธีมที่หลายคนอาจรู้จักและสคริปต์ก็มีสัมผัสที่ตลกขบขันในขณะที่ประสบความสำเร็จในการฉุนเฉียวเช่นกัน โดยรวมแล้วเป็นภาพยนตร์ที่ดีมากที่กดถูกปุ่ม 8/10 เบธานี ค็อกซ์

ฉันต้องปรบมือให้ทั้ง Patch Adams ตัวจริงและ Robin Williams ผู้ล่วงลับที่นำเรื่องราวของเขามาสู่หน้าจอสำหรับเรา ฉันระบุตัวตนด้วยตัวละครจริงๆ แต่วิธีการทำงานของคุณแบบนั้นมีข้อผิดพลาด

ย้อนกลับไปในวันทำการของฉันที่ Crime Vicims Board ในรัฐนิวยอร์ก ฉันก็คิดเช่นเดียวกับ Patch Adams ที่จะไม่เพียงแค่ใช้แนวทางระบบราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในช่วงวิกฤตในชีวิตของพวกเขา คิดว่าพวกเขาเป็นมนุษย์และไม่ใช่แค่ผู้อ้างสิทธิ์ เป็นเรื่องที่คุ้มค่า ทำให้ฉันขัดแย้งกับเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชาบางคน

วิธีการแบบนั้นยังสามารถส่งผลกระทบต่อจิตใจของแต่ละคน ด้วยเหตุผลหลายประการ ฉันยินดีที่จะเกษียณอายุก่อนกำหนด

แต่ฉันไม่มีข้อกำหนดทางการศึกษาเกือบเพียงพอในการเข้าสู่อาชีพนั้น และการมีส่วนร่วมมากเกินไปอาจทำให้คุณเป็นตะกร้าได้ มาดูกันว่าหมอเหล่านั้นจะจัดการกับ MASH อย่างไรกับนรกแห่งสงครามและความไร้สาระของสถานการณ์ของพวกเขา กับคนที่เคยมีปัญหาสุขภาพจิตอยู่แล้วมากขนาดไหน?

พูดทุกอย่างที่ Patch Adams เป็นคนที่น่าทึ่งและ Robin Williams ได้ทำภาพยนตร์ชีวประวัติที่น่าทึ่งเกี่ยวกับเขา สมมติขึ้นเล็กน้อย แต่ฉันคิดว่าเขามีจิตวิญญาณที่ถูกต้องสำหรับบทนี้ การแสดงที่ดีอื่นๆ ของ Carol Potter ในเรื่องความรัก, Daniel London ในฐานะเพื่อนสนิททางการแพทย์ของ Williams และ Michael Jeter ในฐานะผู้ป่วยทางจิตที่ปลุก Patch Adams ให้พบกับแนวทางใหม่ในการรักษา

Patch Adams ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์หนึ่งครั้งสำหรับการทำเพลงประกอบ ควรให้คะแนนอีกสองสามคนรวมถึงหนึ่งรายการสำหรับวิลเลียมส์

หนังดีเกี่ยวกับผู้ชายที่น่าสนใจ

ค.ศ. 1969 แพตช์ อดัมส์ (โรบิน วิลเลียมส์) เข้ารับการตรวจร่างกายในแผนกจิตเวชของโรงพยาบาลแฟร์แฟกซ์ เขาค้นพบว่าเขาสามารถช่วยเหลือผู้ป่วยได้ดี สองปีต่อมา เขาเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยการแพทย์เวอร์จิเนีย

เขามาตีเพื่อนนักเรียน Truman Schiff (Daniel London) ดีน วัลคอตต์ (บ็อบ กันตัน) เป็นครูสอนอนุรักษนิยมที่เคร่งครัด Mitch Roman (Philip Seymour Hoffman) เป็นเพื่อนร่วมห้องที่ประสบความสำเร็จสูง คาริน ฟิชเชอร์ (โมนิกา พอตเตอร์) เป็นนักเรียนปากแข็งที่อ่อนน้อมถ่อมตนด้วยแพตช์ผู้น่ารัก

ชอบหนังเรื่องนี้…ครึ่งแรกของหนังเรื่องนี้ ไม่ใช่ผลงานชิ้นเอกแต่อย่างใด มันวิเศษและบิดเบือน มันไม่ตลกเท่าที่ควร ฉันยินดีที่จะอยู่กับมันทั้งหมดจนกว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับคาริน ครึ่งหลังหนักหน่วงจนน่ารำคาญ ฉันหวังว่าฉันจะไม่ก้าวเข้าสู่เรื่องจริง หากเหตุการณ์ทำให้เกิดจุดเปลี่ยน เรื่องนี้อาจเป็นหนังที่แตกต่างและน่าจะเป็นหนังที่ดีกว่ามาก อย่างน้อยที่สุด ภาพยนตร์เรื่องนี้จำเป็นต้องสร้างจุดเปลี่ยนให้กับผู้ชม

 

 

โรบิน วิลเลียมส์ จากไปแล้ว … และบางครั้งเราลืมไปว่าใครบางคนยิ่งใหญ่เพียงใด แต่จะถูกเตือนเมื่อเราเห็นผลงานของพวกเขาอีกครั้ง ชอบหนังเรื่องนี้ (หรือ RV โง่ๆ แต่บันเทิงสัปดาห์ก่อน) เป็นต้น! ใช่ วิลเลียมส์เป็นนักแสดงตลกที่น่าทึ่ง … แต่เขาก็เป็นนักแสดงละครที่ยอดเยี่ยมเช่นกัน! และหนังเรื่องนี้ก็เป็นข้อพิสูจน์ว่า ไม่กล้าร้อง …มีหลายจังหวะที่บีบหัวใจ … สุดเหลือเชื่อ! คนแรกสำหรับฉันมาพร้อมกับคำถาม: “เธอชื่ออะไร” … เรียบง่าย แต่มีประสิทธิภาพมาก

โรบิน วิลเลียมส์และนักแสดงสมทบ (ด้วยชื่อที่น่าเหลือเชื่อบางส่วนที่ยังต้องส่งเสริม) ยกระดับเรื่องราวชีวิตจริงนี้และทำให้เป็นเรื่องที่ควรค่าแก่การชม เป็นจดหมายรักถึงแพทย์ที่ห่วงใย

ซึ่งหวังว่าจะเป็นคนส่วนใหญ่มากกว่าคนที่อยากเป็นเครื่องจักร … ในฐานะมนุษย์ การเป็นผู้ป่วยไม่เคยเป็นสิ่งที่เราชอบที่จะได้ยินเกี่ยวกับตัวเอง ..ถ้าใครเอามันไปได้ โดยเฉพาะเสียงหัวเราะ … ถือว่า win-win กันทุกคน! ชอบหนังเรื่องนี้ด้วย หากชื่นชอบการรีวิวของเรา สามารถติดตามการรีวิวของเราได้ที่นี่  เว็บรีวิวหนัง