รีวิว Lone Survivor

จะมารีวิวหนังที่ส้รางมาจากเรื่องจริงที่น่าสนใจอีกหนึ่งเรื่องนะ หนังที่สร้างจากเรื่องจริงดูจะขายดีซะเหลือเกิน ล่าสุด ก็ได้ไปดูมาอีกเรื่องแล้ว ก็ Lone Survivor หรือชื่อไทย ‘ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด’ นั่นไง ผลงานจาก Peter Berg ผู้กำกับแห่ง Friday Night Lights, Hancock และ Battleship เรื่องนี้ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

หนังสร้างเรื่องจริง ในหนังสือ Lone Survivor (ฉบับแปลไทยชื่อเรื่องว่า “เย้ยมัจจุราช”) ทหารหน่วยซีล 4 นายที่ไปทำภารกิจจับกุมหรือสังหาร อาห์มาด ชาห์ ผู้นำกลุ่มตาลิบันที่เป็นมือขวาคนหนึ่งของบิน ลาเดน โดยขึ้นไปแอบสังเกตุการณ์บนภูเขา ความซวยเกิดขึ้นเมื่อ ชาวบ้านอัฟกัน 3 คนดันเอาแพะ (หรือแกะก็ไม่รู้แยกไม่ออก) ขึ้นมาเลี้ยงบนภูเขา

ทำให้ไป “ป๊ะกันแหม” กะทหารพอดี ทีนี้ตามหลักก็ต้องฆ่าปิดปากชาวบ้าน แต่พระเอกคือเป็นคนดีไง ก็เลยตัดสินใจปล่อยชาวบ้านไป
ปรากฏหลังจากนั้นไม่ถึงชั่วโมงจ้า ทหารตาลีบันพร้อมอาวุธสงครามครบมือ..ครบตีน 100 กว่าชีวิตล้อมพวกฮีเลยจ้า ก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก 4 คนฝ่าวง 100 กว่าตีนออกมาเพื่อให้มีชีวิตรอดหล่ะจ้า

ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด Lone Survivor หรือ ยุทธการปีกแดงเป็นหนังสือเกี่ยวกับสงครามชื่อดัง บอกเล่าถึงปฏิบัติการที่เป็นที่จดจำของชาวอเมริกัน เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของกองทัพสหรัฐเมื่อปี2005 เขียนโดย มาร์คัส รัทเทรล ผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ภารกิจนี้ถูกตั้งชื่อว่า Red wing เพื่อตามล่าตัว อามัด ชาห์ หัวหน้าคนสำคัญของกลุ่มก่อการร้ายตาลีบันที่สังหารนาวิกโยธินสหรัฐไปมากมาย ในพื้นที่ประเทศอัฟกานิสถาน นายทหารสี่นายถูกส่งให้เป็นแนวหน้าไปสำรวจพื้นที่และสืบข่าว แต่กลับติดอยู่ในวงล้อมของกลุ่มตอลีบันจนเกิดการยิงต่อสู้อย่างดุเดือด นำมาซึ่งการสูญเสียหน่วยซีล11นายและหน่วยไนท์สโตลเกอร์อีก8นายของฝ่ายสหรัฐ

เมื่อถูกมาทำเป็นหนัง ปีเตอร์ เบิร์ก ผู้กำกับทำให้ Lone Survivor เป็นภาพยนตร์แอ็คชั่นดราม่า ที่เน้นเล่าเรื่องราวความผูกพันธ์และความกล้าหาญของนาวีซีลสหรัฐฯ และไม่ไปแตะต้องประเด็นทางการเมืองมากนัก โดยอีกนัยหนึ่งก็เพื่อเชิดชูเกียรติของผู้เสียชีวิตอุทิศให้กับครอบครัวของพวกเขา

 

รีวิว Lone Survivor

 

ดังนั้นสโคปของหนังหนังจึงลดลงมาโฟกัสที่ นาวีซีล4นาย หน่วยแรกของปฏิบัติการณ์เรดวิงค์ที่เข้าไปในหุบเขา Sawtalo Sar  เรือเอก ไมเคิล เมอร์ฟี่ (เทเลอร์ คิทซ์) หัวหน้าทีม, จ่าแดนนี่ ดีซท์ (เอมิล เฮิร์ทซ) ดูแลเรื่องการสื่อสาร , จ่าแมธธิว เอ็กเซลสัน คุ้มกันความปลอดภัย (เบน ฟอสเตอร์) และ มาร์คัส รัทเทรล (มาร์ก วอลห์เบิร์ก) พยาบาลเสนารักษ์ ซึ่งระหว่างที่พวกเขากำลังสอดแนมหมู่บ้านของกลุ่มตาลีบันอยู่บนเขาและติดต่อกับฐานทัพไม่ได้ บัญเอิญมีชายชรากับเด็กสองคนพาแพะมากินหญ้าบนเขาจึงมาพบพวกเขาเข้า

ดังนั้นสโคปของหนังหนังจึงลดลงมาโฟกัสที่ นาวีซีล4นาย หน่วยแรกของปฏิบัติการณ์เรดวิงค์ที่เข้าไปในหุบเขา Sawtalo Sar  เรือเอก ไมเคิล เมอร์ฟี่ (เทเลอร์ คิทซ์) หัวหน้าทีม, จ่าแดนนี่ ดีซท์ (เอมิล เฮิร์ทซ) ดูแลเรื่องการสื่อสาร , จ่าแมธธิว เอ็กเซลสัน คุ้มกันความปลอดภัย (เบน ฟอสเตอร์) และ มาร์คัส รัทเทรล (มาร์ก วอลห์เบิร์ก) พยาบาลเสนารักษ์ ซึ่งระหว่างที่พวกเขากำลังสอดแนมหมู่บ้านของกลุ่มตาลีบันอยู่บนเขาและติดต่อกับฐานทัพไม่ได้ บัญเอิญมีชายชรากับเด็กสองคนพาแพะมากินหญ้าบนเขาจึงมาพบพวกเขาเข้า

ทั้งสามเป็นชาวตาลีบันจึงถูก4นายทหารกักตัวไว้ แมธธิว เถียงกับ มาร์คัส เรื่องทางออก เขาเสนอให้ฆ่าปิดปากเพื่อความปลอดภัย แต่ มาร์คัส ค้านว่าเป็นสิ่งที่ไม่ยุติธรรมหากต้องสังหารคนแก่กับเด็กที่ไม่มีอาวุธ แม้จะมัดไว้สามคนนี้ก็คงตายจากอากาศหนาวหรือหมาป่า สุดท้าย ไมเคิล หัวหน้าทีมตัดสินใจปล่อยทั้ง3ไป

โดยพวกเขามีเวลาเพียงครึ่งชั่วโมงในการออกจากพื้นที่ ก่อนที่คนเลี้ยงแพะจะเอาเรื่องนี้ไปบอกกลุ่มตาลีบันให้ขนกองกำลังนับร้อยมาตามล่าพวกเขา แม้ได้ทำความดี แต่โชคไม่เข้าข้างทั้งสี่เลย นอกจากจะติดต่อขอความช่วยเหลือไม่ได้ กลุ่มตาลีบันที่ชำนาญพื้นที่กว่าใช้เวลาไม่นานก็ตามหาพวกเขาเจอ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

บทหนังค่อนข้างเข้มข้น แอ็คชั่นดุเดือดเร้าใจสมจริงมาก น่าจะถูกใจคอหนังบู๊ ยิ่งคุณรู้เรื่องเกี่ยวกับภารกิจนี้น้อยเท่าไหร่ก็ยิ่งลุ้นระลึกมากเท่านั้น แม้ว่าในช่วงกลางกับท้ายหนังจะเต็มไปด้วยความรุนแรง แต่ในช่วงแรก วีดีโอถ่ายทำการทดสอบร่ายกายและจิตใจของหน่วยซีล กับการเล่าเรื่องส่วนตัวของทหารหลายๆคนในแคมป์ฝึกก็เผยให้เห้นแง่มุมที่อ่อนโยนบางอย่าง ทำให้คนดูเข้าใจว่าพวกเขาก็เป็นคนธรรมดาเหมือนเรา มีครอบครัว มีคนรัก เพียงแต่พวกเขามีอาชีพเป็นทหาร

เมื่อเทียบกับ Zero Dark Thirty (ปฏิบัติการหอกของเนปจูน) ที่ถูกนำมาสร้างเป็นหนังเช่นกัน Lone Survivor เน้นการนำเสนอภารกิจภาคสนาม จึงดูสนุกกว่า ส่วนตัวคิดว่าหนังเรื่องนี้ดีไม่แพ้ The Hurt Locker เลย เพียงแต่เชิดชูทหารอเมริกันมากไปนิด มองในมุมของสหรัฐฯฝ่ายเดียว โอกาสที่จะได้รางวัลใหญ่ในเวทีต่างๆจึงไม่ง่าย รวมถึงในบทสนทนายังมีศัพท์ทางทหารที่เข้าใจยาก และการสบถด่าพร่ำเพรื่อเกินไปหน่อย (หรือว่าจริงๆทหารมะกันเขาหยาบใส่กันตลอดนะ)

ไม่ว่าจะสงครามไหน แน่นอนว่ามันต้องเต็มไปด้วยความเหี้ยมโหด การหํ่าหั่นเอาชีวิตกัน แต่ในอีกมุมหนึ่งยังมีมิตรภาพที่มนุษย์มอบให้แก่เพื่อนมนุษย์ ขณะเดียวกันในการต่อสู้ก็ไม่ใช่การเอาตัวตัวรอดเพื่อตัวเอง ไม่ใช่การฆ่าใครเพื่อครอบครัว ทหารที่อยู่ทั้งสองฝั่งต่างกำลังทำเพื่อประเทศของเขาด้วยกันทั้งนั้น และในช่วงที่สถานการณ์ขับขันที่สุด กลับไม่มีใครคิดหนี

พวกเขาสู้จนกระสุนนัดสุดท้าย ยอมตายแบบมีเกียรติ กระทั้ง มาร์คัส รัทเทรล ผู้รอดชีวิตเพียงหนึ่งเดียวจากปฏบัติการณ์นี้ก็ยังกล่าวว่า เขาได้ตายไปแล้ว ในหุบเขาแห่งนั้น นี่แหละคือวิถีของชายชาติทหาร

รีวิว Lone Survivor

นี่ก็สร้างจากเรื่องราวจริงๆ เรื่องราวของทหารหน่วยซีลของสหรัฐฯ ที่ได้รับมอบหมายให้ไปปฏิบัติหน้าที่ในอัฟกานิสถาน ภารกิจคือการสังหารหนึ่งในแกนนำของกลุ่มตาลีบัน ก่อนที่จะพบว่าตัวเองตกอยู่ท่ามกลางสถานการณ์ของการเอาตัวรอดอย่างไม่มีทางเลือก อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

คงเรียกได้แล้วมั้งว่า Peter Berg ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่องมือขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเคยสร้างภาพยนตร์หลายเรื่องที่เป็นที่จดจำ ไม่ว่าจะเป็น Friday Night Lights, The Kingdom, Hancock ก่อนที่ล่าสุด จะได้กำกับหนังจากเกมเก่ากึ้กอย่าง Battleship ประสบการณ์ทั้งหมดที่สั่งสม ทำให้วันนี้ เขากำกับ ‘ปฏิบัติการพิฆาตสมรภูมิเดือด’ ได้อย่างถึงกึ๋นที่สุด

เขาทำให้ผู้ชมอย่างเราได้รู้จักกับสี่ทหารที่อยู่ในค่ายเดียวกัน ต้องออกมาปฏิบัติภารกิจด้วยกัน และต้องมาผจญกับความเป็นความตายร่วมกัน ด้วยรูปแบบที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกว่ามัน “จริง” ทั้งโดนยิงจริง เจ็บตัวจริง และตายจริง (แม้ทุกอย่างจะไม่จริงก็ตาม)

ทหารกองทัพนี้แต่ละนาย นึกว่านายแบบหนังสือ attitude men health คือคัดแต่ละคนหล่อมาก หน้าอกก้อนเบ้อเริ่มอย่างกะถูกเลี้ยงให้โตมาในฟาร์มไก่เนื้อซีพีหน่ะ พูดแล้วหิวอกไก่ขึ้นคอมาเลยฮะ ข่าวว่าเรื่องนี้ตอนนี้มี Bit หลุดออกมาแล้ว แต่อยากบอกว่าระดับหนังเข้าชิงออสการ์ ตัวต่อเสียง Mix เสียงเนี่ย ควรมาดูในโรงเลยฮะ กระหึ่มมาก นั่งดูแล้วรู้สึกเหมือนบาซูก้าลอยโฉบหูผ่านไปเลยทีเดียวฮะ

ฉากสงครามถือว่าทำออกมาดีทีเดียวฮะ ตอนสาดกระสุน เปี๊ยวป๊าวใส่กันนี่ถึงกะสะดุ้งโหยงเหมือนโดนยิงนิ้วตีนเองเลยทีเดียวฮะ 5555 พีคที่สุดคือตอนตกเขาฮะ แบบว่าสมจริงเกินไปแล้ว ทหารหลังกระแทกหิน กระดูกหักกร๊อบแกร๊บ แอบรู้สึกเสียววาบๆซี่โครงตัวเองขึ้นมาเลย ได้ยินเสียงคนดูซี๊ดซ๊าดกันทั้งโรง 55555

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

LONE SURVIVOR เป็นภาพยนตร์สงครามที่บอกเล่าเรื่องราวจริงในรูปแบบใหม่ที่นำคุณเข้าสู่ใจกลางของการกระทำโดยตรง ฉันคิดว่าหลังจากที่ได้ดูมันแล้ว มันอาจจะดูเกินจริงไปหน่อย เพราะฉันคาดหวังบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริงในแนวของ BLACK HAWK DOWN แต่สิ่งที่ฉันได้รับกลับเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างเรียบง่ายและมีเรื่องราวเบื้องหลังน้อยมาก ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

มีการกระพือปีกที่ชัดเจนของลัทธิจินโกนิยมในเรื่องนี้ บางสิ่งที่ไม่ต้องสงสัยเลยทำให้ผู้ชมที่ไม่ใช่ชาวอเมริกันรู้สึกอึดอัดเล็กน้อยเนื่องจากการโบกธงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ครึ่งชั่วโมงแรกในการแนะนำตัวละครนั้นค่อนข้างน่าเบื่อเนื่องจากเพื่อนเหล่านี้ธรรมดาเกินกว่าจะดึงดูดความสนใจได้จริงๆ แต่เมื่อลงสนามไปแล้วจะค่อนข้างดี

นักแสดงที่ผันตัวมาเป็นผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์ก ก่อนหน้านี้เคยควบคุม THE KINGDOM ภาพยนตร์ระทึกขวัญเรื่องระเบิดที่ดีมากในซาอุดิอาระเบีย ดูเหมือนว่าเขาจะมีความใกล้ชิดกับตะวันออกกลางบ้าง เมื่อการต่อสู้เริ่มต้น ภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่ปล่อยให้ถึงตอนจบ และการถ่ายทำฉากต่อสู้ก็ยอดเยี่ยม มีการแสดงผาดโผน เลือดสาด แอ็คชั่นสไนเปอร์

และการต่อสู้ด้วยไฟอันดุเดือดที่จะทำให้คุณนั่งไม่ติดเก้าอี้ เป็นการยากที่จะจำภาพยนตร์ที่จริงจังและจริงจังจนคุณต้องสะดุ้งทุกครั้งที่กระสุนถูกกระทบหรือตัวละครกระเด็นลงหน้าผา นักแสดงทุกคนผลัดกันแสดงท่าทีที่น่าเชื่ออย่างเหมาะสม และ LONE SURVIVOR ก็ไม่เคยน่าเบื่อเลยแม้แต่วินาทีเดียว เมื่อมันดำเนินไป

ผู้กำกับปีเตอร์ เบิร์กนำหนังสือเกี่ยวกับการต่อสู้ที่แท้จริงมาสู่หน้าจอขนาดใหญ่ จุดเริ่มต้นชวนให้นึกถึงปีเตอร์เบิร์กกำลังเล่น ‘Friday Night Lights’ ฉันคิดว่าเขายังใช้ดนตรีที่คล้ายคลึงกัน นักแสดงนำทั้งสี่คนทำงานได้อย่างเหนียวแน่น พวกเขาล้วนเป็นนักแสดงที่ดี และไม่ยอมให้ฮอลลีวูดแสดงบทบาทโดดเด่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับ Wahlberg เขายังคงพัฒนาอย่างต่อเนื่องในฐานะนักแสดง

อย่างไรก็ตาม ปีเตอร์ เบิร์ก นำฮอลลีวูดเข้าสู่การต่อสู้มากเกินไป หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง ครึ่งหลังของภาพยนตร์ก็ล้นหลามทั้งในแสงแฟลชและการวางตัวในละคร การกระทำมีความสมจริงอย่างมากในบางครั้ง แต่ในบางครั้งรู้สึกเหมือนเป็นเรื่องฮอลลีวูด ทั้งหมดนี้เป็นการกระทำที่ผลักดันข้ามขอบสองสามครั้ง ชาวบ้านใจดี แต่ที่นั่นอีกครั้ง เบิร์กทำศึกโดยที่เฮลิคอปเตอร์มาเหนือสันเขาทันเวลาเพื่อโค่นกลุ่มตอลิบานทั้งหมดด้วยความรุ่งโรจน์ วิธีนี้น่าจะได้ผลดีกว่านี้มากถ้าการกระทำไม่มากเกินไปและสมจริงมากขึ้น

 

รีวิว Lone Survivor

 

“Lone Survivor” เป็นภาพยนตร์อเมริกันสองชั่วโมงเมื่อสามปีที่แล้วซึ่งได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลออสการ์สองสาขาในประเภทเสียง ในความคิดของฉัน ที่นั่นค่อนข้างจะลืมไม่ลงและในด้านอื่นๆ ด้วย คนชอบหนังเรื่องนี้เพราะตัวละครคือทุกคนที่มีอยู่จริง แต่ฉันสงสัยว่าการกระทำที่แสดงในที่นี้จะแม่นยำเพียงใด และถึงแม้จะแม่นยำ แต่ก็ยังเป็นอีกครั้งที่เป็นเพียงหนังสงครามอีกเรื่องที่ไม่สร้างความแตกต่างเมื่อเทียบกับหนังสงครามเรื่องอื่นๆ

ทั้งหมดที่ได้ทำในทศวรรษที่ผ่านมา นอกจากนี้ยังช่วยไม่ได้ที่ Mark Wahlberg เป็นนักแสดงที่ดีและมีพรสวรรค์ด้านการแสดงอย่างแท้จริง เช่น Eric Bana หรือ Ben Foster ที่เสียไปมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ที่เรามีที่นี่

ฉันไม่ชอบนาฬิกาจริงๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะฉันไม่ชอบแนวนี้มากนัก แต่ใช่ ฉันคิดว่ามันไม่ใช่การขี่ที่ตื่นเต้นเร้าใจหรือวัสดุที่ไม่ค่อยดีเท่าที่ควร อย่างไรก็ตาม หากภาพยนตร์เรื่องโปรดของคุณคือ “Black Hawk Down” และ “Saving Private Ryan” คุณก็อาจจะลองดูเรื่องนี้ น่าเศร้าที่ชื่อนี้มีสปอยเลอร์ขนาดใหญ่อยู่แล้ว แน่นอน ถ้าคุณรู้เกี่ยวกับ Marcus Luttrell และภารกิจที่เขาทำอยู่ คุณจะรู้ทุกอย่างอยู่แล้ว แต่ฉันแน่ใจว่าคนส่วนใหญ่นอกสหรัฐอเมริกาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นใคร อย่างไรก็ตาม หนังค่อนข้างน่าจดจำในความคิดของผม ไม่แนะนำ หากชื่นชอบการรีวิวของเรา สามารถติดตามการรีวิวของเราได้ที่นี่  เว็บรีวิวหนัง