รีวิว Jiro Dreams Of Sushi
หนังสารคดี เรื่อง Jiro dreams of sushi ซึ่งกล่าวถึง คุณลุง ทีชื่อ จิโร่ โอโนะ (Jiro Ono) ที่เป็นเจ้าของร้านซูชิ Sukiyabashi Jiro (ปัจจุบัน คุณลุง จิโร่ อายุประมาณ 95 ปีแล้ว) ตลอดชีวิตของลุงจิโร่ ก็ทำงานอยู่แค่อาชีพเดียว นั่นก็คือขายซูชิ ดูได้ที่ ดูหนัง
อาหารญี่ปุ่น อาหารยอดนิยมของคนไทย สำหรับในบ้านเรา หากพูดถึงอาหารญี่ปุ่น ต้องบอกเลยว่าหารับประทานได้ง่ายมากในยุคนี้ เพราะหาซื้อง่าย มีให้เลือกทานแทบทุกจังหวัดและแทบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบทานในร้าน สั่งซื้อกลับไปทานที่บ้าน หรือ จะไปซื้อที่ supermarket หรือ ร้านสะดวกซื้อก็มีให้เลือกหลากหลายเมนู
จากข้อมูลล่าสุด จากองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น บอกว่า ตลาดอาหารญี่ปุ่นในประเทศไทย ในปี 2563 มีร้านอาหารญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 12.6% เป็น 4,094 ร้าน จากเดิมที่มีอยู่แล้ว 3,637 ร้าน ซึ่งร้านอาหารประเภทซูชิเพิ่มขึ้นสูงสุดกว่า 504 ร้าน มากกว่าปี 2562 ถึง 50.9% ซึ่งเป็นผลมาจากจากการขยายในรูปแบบแฟรนไชส์ จากเชนใหญ่ต่าง ๆ ที่เร่งบุกตลาด และจากผู้เล่นรายใหม่ที่กระโดดเข้ามาในตลาดอย่างต่อเนื่อง
โดยมูลค่าตลาดอาหารญี่ปุ่นในแต่ละปีราวๆ 400,000 กว่าล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่องทุกปี ถึงแม้ว่าจะมีสะดุบ้างในปีผ่านมา แต่ก็ยังถือว่า ยังได้รับความนิยมจากคนไทยอย่างต่อเนื่อง
สาเหตุที่คนไทยนิยมอาหารญี่ปุ่น น่าจะมาจากหลายปัจจัย อาทิเช่น เรื่องวัตถุดิบ พอบอกว่าเป็นอาหารญี่ปุ่น ความเชื่อในเรื่องความสะอาด สด ใหม่ การคัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี ก็เกิดขึ้นในความคิดของผู้บริโภคทันที เรื่องศิลปะ ที่เชฟส่งผ่านมายังตัวอาหาร อาหารญี่ปุ่นหลากหลายเมนูมีความเป็นศิลปะ แสดงถึงความใส่ใจและปราณีตชองเชฟ สวยงามที่เราได้เห็น ทำให้อาหารญี่ปุ่นน่ากินเป็นอย่างมาก และ สุดท้ายเรื่องรสชาติ ถูกปากคนไทยเป็นจำนวนมาก จึงทำให้อาหารญี่ปุ่นกลายเป็นที่นิยมมากมาย และอย่างต่อเนื่อง
เรื่องราวของอาหารญี่ปุ่น จึงเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนไทยเสมอ ร้านลุงจิโร่ เขามีที่นั่งแค่10 ที่นั่งเอง แต่ราคาต่อมื้อ ไม่ธรรมดานะครับ ต่อหัว 30,000-40,000 เยน หรือ หากเทียบเป็นเงินบาทก็ประมาณ หมื่นต้นๆ ต่อคนเลยทีเดียว และ หากอยากจะมากินซูชิร้านของลุงจิโร่ จะต้องจองล่วงหน้ากันเป็นเดือนๆ เลย
ในสารคดีเรื่อง Jiro Dreams of Sushi ก็มีเรื่องราว และประเด็นที่น่าสนใจหลายเรื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือ เรื่องการดำเนินชีวิต ของคนคนนึงที่ใช้เวลามาตลอดทั้งชีวิตกับการทำงานในอาชีพเดียว แต่อาชีพที่ว่านี้ ดูเหมือนทำกันง่ายๆ แต่นั่นมันคือกลุ่มมือสมัครเล่น แต่สำหรับ ลุงจิโร่ เขาคือ มืออาชีพในวงการซูชิ ที่ยังมีลมหายใจอยู่ ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
สิ่งที่ได้เรียนรู้จากเรื่องนี้ จริงๆ แล้วมีหลายแง่มุมที่น่าสนใจ แต่ในบทความนี้ แอดมินขอนำเสนอในมุมมองของการทำงาน ซึ่งมีอยู่ 6 ประเด็น ดังต่อไปนี้ ลุงจิโร่ ในวัยใกล้อายุร้อยปี ในเมื่อเขาได้เลือกที่จะเดินบนเส้นทางของการเป็นเชฟซูชิแล้ว เขาหลงใหลกับการทำซูชิ ใส่ใจกับทุกเรื่องที่เกี่ยวกับซูชิ ฝึกฝนการทำซูชิ ทำงานทุกวัน โดยไม่รู้สึกเบื่อและ แทบจะหยุดงานเลย
นสารคดีเรื่องนี้ ลุงจิโร่ ไม่ได้บอกว่า เราทุกคนต้องตามหา passion แต่ลุงจิโร่ กำลังสื่อให้เราเห็นว่า อาชีพที่เราเลือกเองนั้น หากเราตั้งใจจริงที่จะยึดอาชีพนี้ไปจนแก่ตายจริงๆ เราก็จะค้นพบ passion ของงานนี้เอง และ เราก็จะอยากทำอาชีพนี้ต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่มีคำว่าเกษียณ
ส่วนในเรื่องของความผิดพลาด แน่นอนก็ต้องมีเกิดขึ้นได้เช่นกัน แต่นั่นไม่ใช่เป็นเหตุผลที่นำมาใช้ในการเลิกล้มความตั้งใจในการทำอาชีพของเรา หากเรายังมุ่งมั่นและทำไปอย่างต่อเนื่องในที่สุดเราก็จะกลายเป็นสุดยอดในอาชีพนั้นได้อย่างแน่นอน ดังเช่นคุณลุงจิโร่ เป็นต้น
ร้านซูชิของลุงจิโร่ แตกต่างจากร้านอาหารญี่ปุ่นทั่วๆ ไป ที่เราเคยเห็น หรือ เคยได้สัมผัส เพราะร้านของลุงจิโร่ เขาขายแต่ซูชิ และในร้านก็มีที่นั่งแค่ 10 ที่เท่านั้นเอง ด้วยราคา ซูชิ 20 คำ ต่อลูกค้าหนึ่งคน ก็ 3-4 หมื่นเยน (ราคาแปรผันตามต้นทุนของวัตถุดิบที่หาได้ในแต่ละวัน) และร้านของลุงขายดีจนต้องจองกันเป็นเดือนๆ
Jiro Dream of Sushi หรือชื่อไทย ” จิโร เทพเจ้าซูชิ ” เป็นหนังแนวสารคดีที่พูดถึงชีวิตและแนวคิดของเซฟซูชิชื่อดัง Jiro Ono เจ้าของร้าน Sukiyabashi Jiro ร้านซูชิที่อยู่ในบริเวณสถานีรถไฟใต้ดิน Tokyo โดยมีที่นั่งเพียง 10 ที่นั่งเท่านั้น แต่ภาพใต้ภาพลักษณ์ที่ดูธรรมดานี้ ร้านของจิโรนั้นกลับเป็นร้านซูชิร้านแรกที่ได้ดาวมิชลินถึง 3 ดวง
ในวงการอาหาร ดาวมิชลินนั้นถือเป็นจุดสูงสุดในชีวิตของเชฟ เหมือนที่มาดามมัลลอรี่ในหนังเรื่อง The Hundred-Foot Journey พูดไว้ว่า
” One Michelin star is good. Two is amazing. Three is only for the gods. ”
” ได้ดวงนึงคือดีแล้ว สองดวงคือยอดเยี่ยม สามดวงนั้นมีแต่พระเจ้าที่จะทำได้ ”
โดยมิชลินนั้นจะพิจารณาจากทุก ๆ ปัจจัย ทั้งรสชาติอาหาร การนำเสนอ บรรยากาศร้าน รวมถึงความสะอาด ร้านของจิโรนั้นเป็นร้านอาหารร้านเดียวที่ได้รับ 3 ดาว ทั้ง ๆ ที่พื้นที่คับแคบ และไม่มีห้องน้ำในตัวด้วยซ้ำไป ในขณะที่ร้านสอง หรือสามดาวอื่น ๆ ล้วนเป็นร้านอาหารหรู ๆ หรือร้านในโรงแรมทั้งสิ้น การที่ร้านของจิโรได้รับดาวถึง 3 ดาวด้วยคุณสมบัติร้านที่กล่าวมา แสดงให้เห็นว่าจิโรนั้นทำให้กรรมการของมิชลินได้เห็นว่า รสชาติของซูชิ และประสพการณ์ที่จิโรมอบให้นั้นยอดเยี่ยมถึงขนาดทำให้พวกเขามองข้ามข้อด้อยอื่น ๆ ออกไป
รีวิว Jiro Dreams Of Sushi
เราจะได้เห็นความทุ่มเท และความพยายามของจิโร ที่ทำให้ซูชิทุก ๆ คำเป็นคำที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าโดยแสดงให้เห็นว่า แท้จริงแล้วอาหารที่ดูเรียบง่ายอย่างซูชินั้นต้องผ่านกระบวนการมากแค่ไหน ตั้งแต่ข้าวที่ใช้หุง สาหร่าย ปลาที่ดีที่สุดในตลาดในวันนั้น ในทุก ๆ การกระทำของจิโรล้วนแฝงปรัชญาในการดำเนินชีวิต ความพยายามที่จะทำให้ซูชิที่ลูกค้าได้ทานเป็นคำที่ดีที่สุด จิโรนั้นไม่เคยหยุดที่จะพยายามพัฒนาตัวเอง มีประโยคหนึ่งจากในหนังที่สะท้อนแนวนี้นี้ออกมาได้ดีมาก ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี
“ เมื่อคุณตัดสินใจเลือกอาชีพแล้ว… คุณต้องหมกมุ่นอยู่กับงาน คุณต้องตกหลุมรักงานของคุณ อย่าบ่นเกี่ยวกับงานของคุณ คุณต้องทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อฝึกฝนทักษะของคุณ นั่นคือความลับของความสำเร็จ” ..และเป็นกุญแจสำคัญในการได้รับการยกย่องอย่างมีเกียรติ ”
” เมื่อคุณเลือกอาชีพแล้ว… คุณต้องหลงไหล และรักในงานของคุณ ห้ามบ่นเมื่อยากลำบาก คุณต้องทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อผึกฝนทักษะให้ยอดเยี่ยม นั่นแหละคือกุญแจสู่ความสำเร็จ… และการทำให้คนให้เกียรติคุณ ”
แนวคิดของจิโรนั้นสะท้อนถึงวิถีชีวิตของคนญี่ปุ่นทำเอาจริงเอาจังกับการทำงาน และไม่ย่อท้อเมื่อเจอความยากลำบาก นั่นอาจเป็นข้อดีที่ทำให้ญี่ปุ่นประสพความสำเร็จ และแซงหน้าชาติอื่น ๆ ในเอเชียไปก็เป็นได้
จิโรได้สอนเราหลาย ๆ อย่าง ทั้งปรัชญาการทำงาน ที่บอกให้เราทุ่มเทกับสิ่งที่เรารัก หรือแม้กระทั่งปรัชญาการใช้ชีวิตที่เป็นระเบียบ และเรียบง่าย
โดยสรุปแล้ว Jiro Dreams of Sushi นั้นเป็นสารคดีที่ดูเพลิน และให้ปรัชญาการดำเนินชีวิตที่ดีมาก ทำให้เราอยากจะลองไปทานดูสักครั้งนึง ตัวผู้เขียนเองก็มีโอกาสได้ไปญี่ปุ่นหลายครั้งแต่ก็ไม่มีบุญได้กินซักที คิดว่าถ้าเป็นไปได้อยากลองชิมซูชิจากมือของลุงจิโรดูซักครั้ง แต่คิดว่าคงเป็นไปได้ยาก ด้วยอายุของลุงที่มากแล้ว
และตัวร้านขึ้นชื่อว่าจองยากสำหรับชาวต่างชาติเพราะต้องให้ชาวญี่ปุ่นเป็นคนจองให้ ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ร้าน Sukiyabashi Jiro ได้ถูกถอดดาวมิชลินไปแล้วในปี 2019 ครับ แต่สำหรับใครที่อยากลองทานซูชิฝีมือลูกชายแท้ ๆ ของจิโรที่แยกตัวออกมาทำร้านเองสามารถไปลองชิมดูได้ที่ Sukiyabashi Jiro Roppongi Hills ซึ่งจองคิวได้ง่ายกว่ามาก ตัวผู้เขียนก็คิดว่าจะลองไปทานถ้ามีโอกาศได้ไปญี่ปุ่นคราวหน้าครับ (น่าจะอีกนานครับ แหะ ๆ)
คนรักการกินซูชิไม่ควรพลาดสารคดีเรื่องนี้เป็นหนังสารคดีที่จะทำให้คนดูได้ทั้งความรู้ในเรื่องการทำซูชิได้รู้ชีวประวัติของจิโร่ได้ข้อคิดในการใช้ชีวิตได้ความหิวหลังจากดูจบ5555
หนังดำเนินเรื่องผ่านการบอกเล่าของจิโร่เจ้าของร้านซูชิชื่อดังอายุกว่า80ปี ลูกของเค้า ลูกน้องเค้า นักชิมอาหาร
และพ่อค้าต่างๆที่ขายวัตถุดิบทำซูชิให้จิโร่ เราจะได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเค้าได้เห็นกรรมวิธีการทำซูชิความละเอียดอ่อนความใส่ใจในการทำแต่ล้ะชิ้นแต่ล้ะอย่างในแต่ล้ะเมนูภายในร้านของจิโร่ แม้แต่เรื่องชีวิตครอบครัวของเค้าหนังสารคดีเรื่องนี้ก็ทำให้เราได้รู้ลึกเกี่ยวกับตัวจิโร่ แนวคิดของเค้าในการทำอาหารการบริหารธุรกิจ แนวคิดในการเลี้ยงลูกๆทั้ง2คนของเค้า บอกเลยว่าจิโร่คือบุคคลที่น่าเอาเป็นแบบอย่างคนนึงเค้าเป็นทั้งพ่อที่เข้มงวดและเป็นเจ้าของร้านที่ใส่ใจต่อลูกค้านี่
คือเจ้าของร้านที่หาได้ยากแล้วในสมัยนี้และนี้คือสิ่งที่ทำให้ร้านของจิโร่โด่งดังมาจนถึงทุกวันนี้ นี่เป็นสารคดีที่ไม่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย Jiro Dreams of Sushi เป็นอีก1หนังสารคดีเรื่องเยี่ยมที่แนะนำคุ้มค่ากับการรับชม
รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก
ไม่กี่เดือนก่อน ฉันดูหนังฝรั่งเศสเรื่องหนึ่งที่มีเนื้อเรื่องคล้ายกับ “จิโร ดรีมส์ ออฟ ซูชิ”….และมันก็จืดชืดอย่างน่าประหลาด เลยลังเลที่จะดูหนังญี่ปุ่นเรื่องนี้ โชคดีที่ฉันให้โอกาสและสนุกกับสารคดีเรื่องนี้มาก ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี
ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิโร โอโนะ ปรมาจารย์ด้านซูชิที่มีความสามารถอย่างน่าอัศจรรย์และบังคับได้มาก ตอนนี้อยู่ในช่วงกลางยุค 80 เขาหลงรักงานของเขามากจนเขายังคงทำงานเต็มเวลาที่ร้านซูชิเล็กๆ ของเขาอยู่ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ชีวิตของเขาคืองานของเขา สถานที่ของเขาจึงได้รับรางวัลดาวมิชลินสามดวง
ซึ่งเป็นรางวัลหยุดสำหรับความเป็นเลิศด้านอาหาร ภาพยนตร์เรื่องนี้ส่วนใหญ่เป็นเรื่องของจิโระและลูกชายสองคนของเขาที่คุยกันเรื่องงานและชีวิตของพวกเขา และยังมีอีกหลายคนที่พูดถึงเรื่องเหล่านี้ด้วย ผู้บรรยายจะได้ยินเพียงครั้งเดียว สั้นๆ แม้ว่าทั้งหมดนี้ฟังดูน่าเบื่อ แต่ก็ไม่เป็นเช่นนั้น ทีมผู้สร้างสมควรได้รับความชื่นชมยินดีที่นี่ การจัดการเพื่อใส่ความสนใจอย่างมากในเรื่องโดยใช้กล้องที่ดี (ทำให้อาหารดูน่าทึ่ง)
รวมทั้งดนตรีคลาสสิกที่ยอดเยี่ยมเพื่อสร้างภาพที่สวยงามของจิโร – สิ่งที่คุณทำไม่ได้ ช่วยแต่เพลิดเพลิน อย่างไรก็ตาม แม้ว่า Jiro จะมีลูกชายสองคน แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ไม่เคยพูดถึงแม่ (หรือแม่) ของพวกเขาเลย
สารคดีที่ให้ความรู้เกี่ยวกับจิโร ผู้ผลิตซูชิที่เป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆ ในรถไฟใต้ดิน ซึ่งนั่งได้สิบคนโดยแต่ละจานมีราคา 300 ดอลลาร์ นั่นอาจดูเหมือนเป็นเงินจำนวนมาก แต่ Jiro มีการจองที่ต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนข้างหน้าและงานของเขาถือเป็นซูชิที่ใหญ่ที่สุดในโลก JIRO DREAMS OF SUSHI เป็นสารคดีที่ค่อนข้างน่าประทับใจด้วยเหตุผลหลายประการ แต่ที่สำคัญที่สุดคือการที่มันบอกเล่าเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจของ Jiro
และยังทำให้คุณรู้สึกราวกับว่าคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องซูชิ ฉันจะยอมรับว่าฉันไม่เคยชิมซูชิและไม่เคยจะกิน ไม่มีส่วนไหนในตัวฉันที่อยากกินเลย และฉันต้องยอมรับว่าความคิดที่จะทำเช่นนั้นทำให้ท้องไส้ฉันปั่นป่วน พูดอย่างนี้แม้ว่าฉันจะไม่สนใจอาหาร แต่ฉันก็อดไม่ได้ที่จะเข้าไปอยู่ในโลกของจิโร่ และฉันพบว่ามันน่าสนใจอย่างไม่น่าเชื่อด้วยเหตุผลหลายประการ
จรรยาบรรณในการทำงานของ Jiro เป็นสิ่งที่ทุกคนสามารถชื่นชมได้ วิธีที่เขาคาดหวังความสมบูรณ์แบบในอาหารของเขาเป็นอย่างอื่นที่น่าชื่นชมและไม่ต้องพูดถึงว่าเขาไม่เคยมีความสุขและต้องการทำให้ดีขึ้นตลอดเวลาที่เขาเตรียมอาหาร สารคดียังลงรายละเอียดเกี่ยวกับการส่งต่อธุรกิจให้ลูกชาย และความกดดันที่ทำให้เขาต้องดำเนินชีวิตตามมาตรฐานของพ่อ
ความสนุกอีกด้านของภาพยนตร์เรื่องนี้คือวิธีที่จิโรเลือกข้าวและแหล่งปลาต่างๆ ของเขา เราเห็นพวกเขาเดินทางไปตลาดปลาต่างๆ และพวกเขาอธิบายสิ่งที่พวกเขามองหา และยังมีคนพูดถึงคุณภาพของปลาที่ลดลงอีกด้วย JIRO DREAMS OF SUSHI เป็นภาพยนตร์ที่สนุกและใช้เวลาเพียง 82 นาทีเท่านั้นที่จะไม่มีวันเสื่อมคลาย ฉันแน่ใจว่าแฟน ๆ ของซูชิจะสนุกกับมันมากยิ่งขึ้น เว็บรีวิวหนัง
