รีวิว Gran Torino

เรื่องราวของชายชราอดีตทหารผ่านศึกสมรภูมิเกาหลีชื่อ วอลซ์ โควาลสกี้ ด้วยความที่วอลซ์เป็นคนแก่หัวโบราณ เอาใจยาก ไม่สนใจใยดีใคร ขี้โมโห แถมปากร้ายอีก ทำให้ลูกหลานเอือมจนต้องเบือนหน้าหนี ทิ้งให้แกอยู่คนเดียว ต่อมาเขาได้ช่วยครอบครัวชาวม้ง เพื่อนข้างบ้านจากอันธพาลท้องถิ่นที่คอยมาวุ่นวายโดยไม่ตั้งใจ วอลซ์ผู้ที่คนเอือมระอากลับกลายเป็นฮีโร่ในหัวใจคนที่ไม่เคยรู้จักกันอย่างครอบครัวม้ง ดูได้ที่ ดูหนัง

 

รีวิว Gran Torino

 

เหรียญกล้าหาญจากสมรภูมิการสู้รบ อาจเป็นสัญลักษณ์แสดงการยกย่องวีรบุรุษ แต่ทว่าเมื่อความเป็นจริง สงครามมีแต่ผู้พ่ายแพ้ จึงไม่มีใครรับประกันได้ว่า ผู้มีชีวิตรอดกลับมา จะปลื้มปีติไปกับวีรกรรมที่เกิดขึ้น ตรงกันข้ามอาจเป็นตราบาปที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำ

ไม่ต่างจาก Walt Kowalski (Clint Eastwood) ทหารผ่านศึกวัยดึก ที่เคยผ่านสงครามเกาหลีมาก่อน ซึ่งชีวิตในแต่ละวัน ไม่มีความสุขนัก เขาไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองเป็นวีรบุรุษสงคราม ซ้ำร้ายไปกว่านั้น ในสายตาของคนใกล้ชิดอย่างลูกๆหลานๆ Kowalski ยังเป็นตาแก่หัวรั้น อัตตาสูง ขี้หงุดหงิด และเข้ากับใครๆได้ยาก

ภาพยนตร์เปิดเรื่องมาด้วยฉากพิธีศพในโบสถ์ สื่อให้เห็นว่า Kowalski เพิ่งสูญเสียภรรยาอันเป็นที่รักไป แต่ดูเหมือนชายชราเต็มใจที่จะอยู่กับสุนัขตัวโปรดเพียงลำพัง เสียยังดีกว่าให้ลูกหลานมายุ่มย่ามกับชีวิต

ไม่เว้นแม้กระทั่งบาทหลวงหนุ่ม ที่พยายามจะช่วยให้ Kowalski หลุดพ้นจากความทุกข์ในใจ ก็ยังโดนปฏิเสธ แกมดูถูกในเรื่องวัยวุฒิ และประสบการณ์การผ่านชีวิต

“I think you’re an overeducated 27 year old virgin who likes to hold the hands of superstitious old ladies ….” นั่นคือประโยคจำกัดความที่ชายชรามีต่อตัวแทนของพระผู้เป็นเจ้า

ราวกับว่า ชีวิตของทหารผ่านศึกรายนี้ หมดสิ้นแล้วซึ่งทุกสิ่งที่ศรัทธายึดเหนี่ยว แต่จุดเปลี่ยนของคนวัยเกษียณอย่าง Kowalski มาจากเพื่อนบ้านชาวม้ง ซึ่งตัวเขาเองไม่เคยคิดจะสุงสิง ซ้ำยังรังเกียจพฤติกรรม หรือวัฒนธรรมม้งหลายๆอย่าง ทว่าสองเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้น คือ Thao เด็กหนุ่มม้งข้างบ้าน โดนแก็งอันธพาลเชื้อชาติเดียวกันกลั่นแกล้ง และท้าวัดใจด้วยการไปขโมยรถยนต์สุดหวงดังดวงใจของ Kowalski (Ford รุ่น Gran Torino ปี 1972 – ก็สมควรหวงอยู่นะครับ)

แต่ทว่าโจรมือสมัครเล่นอย่าง Thao ทำงานพลาด ซ้ำยังรู้สึกสำนึกผิด เขาจึงต้องมาช่วยงานอะไรก็ได้ตามที่ Kowalski ต้องการเพื่อแสดงการขอโทษ ตามธรรมเนียมชาวม้ง

ส่วนอีกเหตุการณ์หนึ่ง เกิดจากการเป็นฮีโร่จำเป็น เมื่อชายชราตกอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องไปช่วยเหลือ Sue พี่สาวของ Thao จากจิ๊กโก๋ผิวสีที่พยายามมาทำมิดีมิร้าย ตอกย้ำให้ Kowalski กลายเป็นผู้มีพระคุณสำหรับครอบครัวชาวม้งยิ่งขึ้น

เหตุการณ์สองอย่าง กลายเป็นจุดเปลี่ยนที่ค่อยๆทลายกำแพงแห่งอคติ จนกระทั่งเกิดเป็นสายสัมพันธ์ระหว่างชายชราอเมริกันนิยม กับเพื่อนบ้านต่างเชื้อชาติ

Kowalski เริ่มที่จะมีมนุษยสัมพันธ์ และกลายเป็นความรักที่มีต่อหนุ่มสาวม้งแบบลูกหลาน เขาเริ่มเปิดรับไมตรีจาก Sue ขณะเดียวกัน ก็สอนทั้งแนวคิดการใช้ชีวิต การทำงาน แม้กระทั่งการจีบสาวให้กับ Thao จนดูเหมือนว่าชีวิตในบั้นปลายของ Kowalski ได้รับการเติมเต็มในสิ่งที่ขาดหาย

แต่การที่แก็งอันธพาลม้งกลุ่มเดิม ยังคอยตามรังควาน Thao อยู่เสมอ วีรบุรุษสงครามอย่าง Kowalski จึงต้องออกโรงสะสางปัญหา ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

รีวิว Gran Torino

 

ภาพยนตร์เรื่อง Gran Torino เป็นหนังดีที่ไม่ได้ฉายโรงในเมืองไทย แต่ออกจำหน่ายในรูปแบบแผ่น โดยมีชื่อภาษาไทยว่า “คนกร้าว ทะนงโลก”

ผลงานเรื่องนี้ เป็นการกำกับ และแสดงนำเองของ Clint Eastwood ซึ่งแม้ว่าวัยจะล่วงสู่หลัก 7 แต่ฝีไม้ลายมือในการทำหนัง กลับยิ่งเข้มข้นไปตามอายุ

แม้ Gran Torino เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในรัฐมิชิแกน แต่ความจริงแล้วเนื้อหาดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นได้ทั่วทุกมุมโลกในสถานที่ที่มีความแตกต่างทางวัฒนธรรม และทุกแห่งหนที่มีอคติในจิตใจคน

Walt Kowalski เป็นตัวแทนของบุคคลที่คิดว่าตัวเอง คือ จุดศูนย์กลางของโลก ชีวิตหลังการสูญเสียภรรยา ถ่ายทอดให้ผู้ชมได้รู้จักชายคนนี้ว่า เป็นบุรุษกร้านโลก ทะนงตนอยู่เหนือคนอื่น ไม่เคยที่จะรับฟังความคิดเห็นจากใครได้ง่ายๆ

เขาดูถูกเพื่อนบ้านต่างเชื้อชาติ ไม่สบอารมณ์กับลูกๆหลานๆของตัวเอง ไม่ยอมรับความช่วยเหลือใครโดยไม่จำเป็น ไม่แม้กระทั่งจะศรัทธาในคำสอนของศาสนา นั่นจึงอาจเป็นเหตุให้ความรู้สึกผิดบาป หรือความทุกข์ในใจ ในชีวิตที่ผ่านมาดูราวกับว่า ยังไม่ได้รับการชำระล้างอย่างหมดจด

แต่ด้วยความยังเป็นมนุษย์ปถุชน เมื่อมีเหตุการณ์ที่ทำให้อดีตทหารผ่านศึก ได้เปิดใจรับสัมพันธภาพที่ดีระหว่างเพื่อนมนุษย์ นั่นก็ทำให้ชายชราค้นพบความสุข จนกระทั่งนำไปสู่วิถีชำระบาป

ดังนั้นหากจับเอาแก่นสำคัญของชีวิต Kowalski ภาพยนตร์เรื่อง Gran Torino สื่อสารให้เราเห็นว่า ความทุกข์ในใจไม่อาจลบล้างให้หมดไปได้ หากไม่เริ่มต้นลดอคติที่อยู่ภายใน และการเปลี่ยนแปลงใดๆ ย่อมไม่เกิดหากยังยึดติดกับสิ่งที่คิดว่าถูกแล้ว ใช่แล้ว

รีวิว Gran Torino

ความจริง Kowalski ก็มีเพื่อนฝูงที่ปรากฏให้เห็นอยู่บ้าง หากแต่คงเป็นเรื่องน่าเสียดาย หากในชีวิตจริงคนเราจะจำกัดปริมาณของ “มิตร” ดังนั้นเมื่อชายชราเริ่มเปิดใจรับเด็กม้งเพื่อนบ้านเข้ามา หรือแม้กระทั่งเริ่มพูดคุยกับหลวงพ่อมากขึ้น หนังแสดงให้เห็นว่า ชีวิตก็มีความสวยงามอยู่รอบๆตัว เพียงแค่เรารู้จักเปิดหูรับฟัง เปิดตามองดู และเปิดใจให้โอกาสดีๆเข้ามา ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ประโยคสนทนาช่วงหนึ่ง Kowalski พูดว่า สิ่งที่ทำให้เขาได้รับเหรียญกล้าหาญ คือ “We shot men, stabbed them with bayonets, chopped up 17 year olds with shovels.” แน่นอนว่า นี่คือ การเปิดเผยสภาวะจิตใจที่ทหารผ่านศึกคนนี้ติดค้างมาจากสงคราม

อย่างไรก็ตาม ความผิดอันร้ายแรงใดๆ ย่อมสามารถลดปริมาณ ลบล้างให้เจือจางลงไปได้ หากเพียงผู้กระทำสำนึกในผิดบาปนั้น พร้อมเปิดใจในการบำบัด และที่สำคัญไม่เดินทางไปสู่ความผิดแบบเดิมๆซ้ำอีก

แม้บทสรุปของ Gran Torino หลายคนอาจคาดไม่ถึง หรือไม่เป็นไปตามที่ตัวเองต้องการ แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้แสดงให้เห็นว่า การเลือกกระทำดี หรือหลุดพ้นจากทุกข์ในใจของแต่ละคนนั้น วิธีการอาจไม่สำคัญเท่ากับผลลัพธ์

โดยเฉพาะ ทหารเก่าอย่าง Kowalski นั้น บางครั้งวิถีชำระบาปตามแบบฉบับของเขานั้น อาจเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุดแล้ว Gran Torino ไม่ได้ส่งเข้าโปรโมทตามเวทีประกวดใหญ่ๆ เหมือนหนังดังเรื่องอื่นๆของ Clint Eastwood

แต่ความหมายดีๆที่แฝงในหนัง ก็มีพลังมากพอที่จะคว้ารางวัลจากเวที David di Donatello Awards 2009 (ตุ๊กตาทองประเทศอิตาลี) ในสาขา Best Foreign Film มาครองได้

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

หนังเริ่มต้นด้วยภรรยาของ Clint Eastwood กำลังจะตาย คุณสามารถเห็นได้ทันทีว่าเขาเป็นชายชราที่น่ารังเกียจที่มีความสัมพันธ์กับลูกๆ และหลานๆ ของเขาเพียงเล็กน้อย (ถ้ามี) ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

เขายังอาศัยอยู่ในชุมชนที่ตอนนี้เต็มไปด้วยชาวเอเชียและชาวชิคาโน (และแก๊งค์) และเขาเกลียดพวกเขา – และพวกเขาก็ไม่ชอบเขาเป็นพิเศษเช่นกัน ณ จุดนี้ มันยากที่จะชอบคนแก่ที่ดื้อรั้น เขาน่ารังเกียจนักบวชผู้มีเจตนาดีที่พยายามช่วยเขารับมือกับการตายของภรรยา และเขาแค่ต้องการให้ทุกคนปล่อยเขาไว้ตามลำพัง

ต่อมา แม้ว่าตัวละครของอีสต์วูดจะต้องการความเป็นส่วนตัว แต่เขากลับถูกบังคับให้ต้องเข้าไปพัวพัน—แม้ว่าจะไม่ใช่เหตุผลที่เห็นแก่ผู้อื่นก็ตาม แก๊งเอเชียพยายามบังคับเพื่อนบ้านให้เข้าร่วม

โดยการลักพาตัวเขา โชคไม่ดีสำหรับอีสต์วูด แก๊งค์ดังกล่าวส่งเสียงดังและเข้ามาในบ้านของเขา และเขาก็ตอบโต้ด้วยการจับปืนจ่อม—บอกให้พวกเขาออกไปหรือตาย! ในวันถัดไปโดยไม่คาดคิด เพื่อนบ้านชาวเอเชียของเขาเริ่มนำอาหาร ดอกไม้ และของขวัญอื่นๆ มาให้เขา ทำไม? เพราะพวกเขาเองก็ถูกพวกแก๊งค์คุกคามเช่นกันและอยากจะขอบคุณเขา

นอกจากนี้ วัยรุ่นที่เขาช่วยชีวิตจากการลักพาตัวก็ขอบคุณเขา และยอมรับว่าเขาพยายามขโมยรถรางวัลเก่าของ Eastwood (รถ Gran Torino ในสภาพใหม่เอี่ยม) ในคืนก่อนหน้า อีสต์วูดตอบอย่างสง่างามว่าหากเขาเห็นเด็กอีกครั้งในที่ดินของเขา เขาจะ “ส่ายหัว”! ตัวละคร Eastwood นี้พูดมากเหมือน Archie Bunker รวมกับ Dirty Harry

และเขาแค่อยากถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง!! ตำแหน่งที่ภาพยนตร์เรื่องต่อไปจะดำเนินต่อไปนั้นค่อนข้างคาดเดาได้ แต่ตอนจบทั้งหมดนั้นน่าทึ่งมาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะคาดเดา ฉันจะพูดมากกว่านี้ แต่ฉันไม่อยากสปอยหนัง

 

 

ภาพยนตร์เรื่องนี้ยอดเยี่ยมด้วยบทสนทนาที่เฉียบแหลมและเฉียบแหลมมาก อย่างไรก็ตาม ขอเตือนไว้ก่อนว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีภาษาที่หยาบคายมาก ไม่เพียงแต่มีการสาปแช่งมากมายเท่านั้น แต่ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังมีเนื้อหาเกี่ยวกับเชื้อชาติมากมาย

หลายคนที่แก้ไขการเมืองอย่างเข้มแข็งอาจถึงขั้นพลาดหากพวกเขาดู! แม้ว่ามันจะหยาบคายและหยาบคาย แต่ก็เหมาะสมกับเรื่องราว เนื่องจากชีวิตแก๊งค์ไม่สวยงามและการฆ่าเชื้อมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อความสมจริงของภาพยนตร์อย่างรุนแรง

โดยรวมแล้ว เป็นภาพยนตร์ที่ยอดเยี่ยมที่มีการกำกับ เรื่องราว และการแสดงจากผู้เชี่ยวชาญ เห็นได้ชัดว่าเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ดีที่สุดที่ฉันเคยดูในทศวรรษที่ผ่านมา

ฉันเห็น Gran Torino ส่วนใหญ่เป็นผู้ชื่นชม Clint Eastwood ทั้งในฐานะนักแสดงและในฐานะผู้กำกับ และฉันรู้สึกประทับใจมาก มีบางส่วนที่ทำให้ฉันขบขันและส่วนอื่นๆ ที่ทำให้ฉันเคลื่อนไหว Gran Torino เป็นภาพยนตร์ที่สร้างมาอย่างดีและกำกับได้อย่างสวยงาม พร้อมด้วยซาวด์แทร็กที่เหมาะสม บทที่แข็งแกร่งพร้อมการเปลี่ยนโทนที่ราบรื่นเพียงพอ

และข้อความอันทรงพลังที่ถ่ายทอดออกมาได้ดี และสิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่าหลายคนรวมถึงตัวฉันเองด้วย เรื่องราวส่วนใหญ่มีส่วนร่วมกับตัวเอกที่น่าสนใจ แต่มีบางช่วงที่มันถูกแฮ็กและคาดเดาได้

ซึ่งเป็นคำวิจารณ์เดียวของฉันเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ในเรื่องการแสดง คลินท์ อีสต์วูดแสดงได้ดีมาก และเด็กๆ ก็ทำได้ดีเป็นส่วนใหญ่ เว็บรีวิวหนัง