รีวิว Formula

ขอเกริ่นก่อนเลยว่าส่วนตัวเราเนี่ยไม่เคยคิดจะสนใจที่จะสมัคร Netflix เพื่อมาดูหนังหรือดูซีรี่ย์เลยแหละ แต่ด้วยความที่ปีนี้ (2021) เป็นช่วงที่เราออกไปไหนไม่ได้ เพราะโควิดแพร่ระบาด เลยทำให้เราต้องหากิจกรรมอื่นๆที่ทำได้ที่บ้าน และเพื่อนก็แนะนำให้ดูสารคดีชุดนี้นั่นเอง ซึ่งเราก็ชั่งใจอยู่นานเลยว่าจะเสียเงินสมัครเพื่อเข้าไปดูดีรึป่าว ขี้เบื่อแบบเราจะคุ้มมั้ย จะดูจนจบมั้ย ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

แต่หลังจากที่เราได้ไปดู Trailer ทั้ง 3 ซีซั่นแล้วก็น่าสนใจมากๆ และดูรวดเดียวทั้งหมด 3 ซีซั่นเลย ติดงอมแงมอยู่หลายวันด้วย55555 ซึ่งซีซั่นที่4 ที่เป็นเรื่องราวการแข่งขันของปี 2021 ก็จะมีออกมาให้ชมเช่นกันทาง F1 คอนเฟิร์มแล้วเรียบร้อย! เราเองก็รอชมอยู่ต้องมันส์มากแน่ๆ แต่อะหลังจากเกริ่นมาเยอะเลยงั้นเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

Formula1: Drive to Survive หรือ รถแข่งสูตร1 แรงแซงชีวิต เป็นสารคดีชุดที่มีให้รับชมบน Netflix ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ซีซั่น ซึ่งแต่ละซีซั่นมี 10 ตอน ตอนประมาณละ 30-40 นาที โดยสารคดีชุดนี้นำเสนอบรรยากาศ และเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้น ไม่ได้มีเพียงการแข่งขันที่ดุเดือดในสนามอย่างเดียวเพียงเท่านั้น แต่ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังที่หลายๆคนยังไม่รู้ ซึ่งทุกอย่างที่รวมกันมาเป็นสารคดีที่เล่าเรื่องราวทุกอย่างได้อย่างลงตัว

ในส่วนของเนื้อหาที่ทางสารคดีตัวนี้ทำออกมาเราคิดว่าทำออกมาได้ดีมากเลยแหละ เพราะเราที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับ F1 มาก่อนก็ยังดูรู้เรื่อง ได้ทั้งสาระความรู้ต่างๆ ทั้งความดราม่า หักเหลี่ยมของเรื่องราว หรือแม้กระทั่ง สตอรี่ต่างๆของนักแข่ง ความกดดันที่ต้องแบกรับ การที่นักแข่งต้องแข่งขันกันแม้แต่ในทีมเดียวกัน

อุปสรรคด้านการเงินที่ส่งผลต่อการลงแข่งขัน สปอนเซอร์ ปมการเมือง การแย่งชิงตำแหน่งของนักแข่งที่มีเพียง 20 ที่นั่งในแต่ละปี และแน่นอนว่าความสนุกเข้มข้น ไม่น่าเบื่อ ซึ่งเราคิดว่าถ้าสามารถนำเสนอการแข่งขันกีฬาออกมาให้คนขี้เบื่ออย่างเราดูตั้งแต่ต้นจนจบได้ยาวๆขนาดนี้ ก็ถือว่าเก่งมากๆเลยนะ (ถึงจะมีบางซีนที่ดราม่าจนเกินไป อันนี้ก็ต้องใช้วิจารณญาณกันเอาเองนะ) แต่เอาจริงๆทางซีรีย์เค้าทำดี สนุกเข้มข้นจนหลังเราดูซีซั่น 3 จบ ก็ทำให้เราอยากไปดูการแข่งขันในสนามจริงเลยแหละ

 

รีวิว Formula

 

ภาพ เสียง และการตัดต่อของสารคดีนี้โดยรวมก็โคตรลงตัว ภาพที่ถ่ายทำออกมาสำหรับเราคือสุดยอดมาก ภาพสวยคมชัด ซีนรถชนกันในสนาม หรือซีน close-up ใดๆ ก็เห็นทุกส่วนแบบคมชัดแม้กระทั่งสะเก็ดไฟที่กระจายออกมา และนอกจากภาพในสนามแล้วภาพถ่ายที่เห็นวิวโดยรอบของพื้นที่แข่งขันที่แตกต่างกันแต่ละประเทศก็สวยถูกใจเรามากๆ เหมือนเราได้ชมวิวต่างประเทศด้วยขณะดูสารคดีชุดนี้เลย

ซึ่งภาพที่สวยปังบวกกับเสียงที่แน่นโคตรขนาดนี้ ในสนามเวลาได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของแต่ละทีมคือมันส์จริงๆ! และงานตัดต่อก็ดีงามไม่แพ้กัน เพราะเค้าสามารถตัดต่อสิ่งที่ธรรมดาๆให้ดูเชือดเฉือนฟาดฟันกันอย่างเมามันส์ น่าสนใจเหมือนเรากำลังดูหนังแอคชั่นเลยจริงๆ

รีวิว Formula

สารคดีกีฬาที่ต่อให้เราไม่เคยดู ไม่เคยรู้จัก หรือไม่เคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับกีฬานั้นๆ เลย แต่ยังทำให้เรานั่งดูเรื่อยๆ แล้วยังสนุกได้ นั่นคือสารคดีกีฬาที่ดี เรื่องนี้คือหนึ่งในนั้น ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

 

สารภาพว่าไม่เคยดูการแข่งขันรถ Formula 1 หรือ F1 มาก่อน แต่ขอยืนยันว่าสารคดีเกี่ยวกับ F1 เรื่องนี้ดูได้ทุกคน ขนาดแม่ของจขกท.ดูด้วยกันยังสนุกและลุ้นตื่นเต้นไปทุกตอนเลย เพราะเนื้อหาสาระของเรื่องนี้ ไม่ได้เน้นการแข่งรถอย่างเอาเป็นเอาตายอย่างเดียว แต่มันจะมีทั้งเรื่องราวการต่อสู้ของนักขับแต่ละคน

ที่ในแต่ละปี จะมีพื้นที่การมีสถานะนักขับ F1 ได้เพียงแค่ 20 คนในโลกเท่านั้น ใครทำผลงานไม่ดีมีเสียวสันหลังตกงานเมื่อไหร่ก็ได้ รวมถึงผู้จัดการ และแนวทางการทำงานของแต่ละทีม ที่เป็นแก่นของ F1 เช่นกัน การเล่าจะเล่าสลับไปเรื่อยๆ เรื่องคนนั้นที คนนี้ที ให้เราคอยลุ้น จนท้ายที่สุด เดี๋ยวเราจะจำได้เองว่าคนนี้ชื่ออะไร ขับให้ทีมไหนอยู่ และขอบอกว่าการเก็บภาพ และการตัดต่อออกมา คุณภาพดีและเรียลมากๆ ถึงมากที่สุด ควรค่าแก่การดูได้ยาวๆ 2 ซีซั่นๆ ละ 10 ตอน

เซอร์ไพรส์เข้าไปอีก! อย่างที่บอก เป็นคนไม่ได้ติดตามข่าวสารของ F1 มาก่อน แต่พอมาดูเรื่องนี้จนถึงซีซั่น 2 ตอน 6 บอกเลยมันภูมิใจ #คนไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก ประโยคนี้จะยืนยันได้เป็นอย่างดี ไม่เล่ามากดีกว่าว่าเค้าคือใคร เดี๋ยวเข้าข่ายสปอยล์ (แต่แฟน F1 ก็รู้อยู่แล้วแหละ) ให้ไปดูเองดีกว่านะ

สรุปความดีงามที่ชวนดู FORMULA 1 Drive to Survive ดูได้สนุกมาก โดยไม่จำเป็นต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับการแข่ง F1 มาก่อนเลย หลากหลายเรื่องราวนอกเหนือจากการแข่งรถ ทั้งคาแรคเตอร์นักขับแต่ละคน, ดราม่าในวงการธุรกิจ, เรื่องเศร้า ฯลฯ แต่ก็ไม่ได้ละทิ้งความมันส์ของการแข่งรถสูตร 1 แต่อย่างใด ภาพสวยมาก เก็บ footage ดี ตัดต่อดี บทสัมฯ ดี ทุกคนในวงการ F1 ดูโปรฯ และเป็นธรรมชาติมาก

ซีซั่น 2 ตอน 6 (Raging Bulls) เหมือนทำมาให้คนไทยได้ภูมิใจเลยอะ ดีงาม ดูจบแล้วน้าอยากหาโอกาสไปดูแข่ง F1 ในสนามจริงสักครั้งในชีวิต ไม่รู้ใครเป็นบ้าง ^^

เอาจริงๆ คิดว่าใน Netflix มี Documentaries หรือสารคดีดีๆ เพียบ และสำหรับคนที่ทำงาน และชอบเกี่ยวกับกีฬาอยู่แล้วอย่างจขกท. เลยมีแนวนี้ผ่านตาเข้ามาบ้าง ใน Netflix ที่ชอบ ก็จะมี LOSERS (2019) ที่รวบรวมเรื่องความพ่ายแพ้และเฟลแบบชวนเหวอของนักกีฬาชนิดต่างๆ ที่เรารู้จักบ้าง ไม่รู้จักบ้าง เช่นตอนนึงที่ชอบเพราะเป็นกีฬาที่ตัวเองเล่นอยู่แล้ว คือวิ่งเทรล ไปดูกันเลยที่เว็บดูหนังฟรี

 

 

แล้วนักวิ่งคนนั้นไปลงแข่งวิ่งเทรลรายการสุดโหดของโลกกลางทะเลทราย แล้วเกิดหลงทางอยู่นาน 9 วัน แต่โชคดีที่เจออาคารร้างและสามารถจับค้างคาวในนั้นมากินประทังชีวิตได้ โค๊ะ! (ตอนนั้นยังไม่รู้จักไวรัสโคโรนากันสินะ)

ส่วนอีกเรื่องที่ชอบคือ THE GAME CHANGERS (2018) ที่ว่าด้วยการพิสูจน์ว่าการกินผักกินมังฯ ล้วน โดยไม่กินเนื้อสัตว์เลย ให้ผลลัพธ์ด้านโภชนาการที่ดีกว่าต่อร่างกายนักกีฬายังไง ด้วยความที่เล่าสนุก และเล่าผ่านนักกีฬาระดับโปรฯ ทั่วโลกที่ยึดแนวทางชีวิตแบบนี้จริงๆ บอกเลยว่าดูจบแล้วแทบอยากกินแต่ผักเลยอะ

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

นี่เป็นการมองเชิงลึกที่ดีจริงๆ ในการลงแข่งในสนาม ข้อมูลเชิงลึกของผู้ขับขี่และทีม ตลอดจนความท้าทายตลอดฤดูกาล 2018 เทคนิคน้อยลงและมีอารมณ์มากขึ้น มีทีมทหารผ่านศึกที่ต้องดิ้นรน นักแข่งต่อสู้เพื่อรักษาที่นั่งด้วยนักแข่งรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายเพื่อสร้างชื่อเสียงและข้อมูลเชิงลึกที่ดีจริงๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นจริงระหว่างทีมกองกลางที่มักถูกมองข้ามโดย Ferrari ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์

 

 

และ Mercedes ว่าเป็นทีมที่มีอำนาจเหนือกว่า ฟุตเทจมีคุณภาพสูงโดย F1 Insiders เพิ่มความคิดของพวกเขา ทั้งหมดได้รับการแก้ไขเพื่อให้ครอบคลุมช่วงเวลาต่างๆ จากทีมและนักแข่งในขณะเดียวกันก็ดำเนินไปตลอดทั้งฤดูกาล โดยรวมแล้วสิ่งนี้มีส่วนร่วมอย่างมากสำหรับแฟน F1 ตัวใหญ่และหวังว่าพวกเขาจะทำเช่นนี้อีกครั้งที่ Ferrari และ Mercedes เข้าร่วม

บทสัมภาษณ์ที่หลากหลายกับคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ฤดูกาลให้ภาพรวมที่ค่อนข้างดีของปี F1 แต่โดยรวมแล้วไม่ใช่ทุกอย่างที่เท่าเทียมกัน แต่ใช่ โดยรวมแล้วเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยม แต่ไม่น่าสนใจเสมอไป

‘Drive to Survive’ ของ Netflix อาจไม่ได้รับการยกย่องว่าเป็นสิ่งที่โดดเด่น แต่ฉันเชื่ออย่างมั่นคงว่าสิ่งนี้ควรได้รับการยอมรับว่าเป็นทางเข้าที่มีประโยชน์อย่างเหลือเชื่อสำหรับมือใหม่ทุกคนรวมถึงผู้สนับสนุนที่ทุ่มเทของกีฬานี้

ในฐานะมือใหม่ ฉันสามารถรับรองความสามารถของมันเพื่อให้แน่ใจว่าคุณจะคุ้นเคยกับกฎและข้อบังคับเป็นอย่างดี นอกเหนือจากช่วงเวลาออกเทนสูงแล้ว คุณยังได้รับข้อมูลเชิงลึกที่น่าสนใจมากมายเกี่ยวกับทีมหลักทั้งหมดและชุดนักแข่งของพวกเขา แม้ว่ารูปแบบเฉพาะซึ่งพวกเขามักจะแสดงให้เห็นสิ่งเหล่านั้นจะคาดเดาได้เล็กน้อยและซ้ำซาก แต่พวกเขาทำเพียงพอที่จะรักษาระดับของความเร่งด่วนและความสงสัย

ขณะนี้ มีการกล่าวหาที่ร้ายแรงเกี่ยวกับการใช้การประดิษฐ์หลายครั้ง

 

รีวิว Formula

 

ฉันไม่รู้ว่าทำไม Netflix ถึงทำธุรกิจที่ร่มรื่นที่นี่ ฉันหมายความว่า พวกเขาได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าถึง Formula 1 แล้ว ใช้เงินหลายล้านเพื่อสิทธิ์ในการพรรณนาถึงเหตุการณ์เบื้องหลังทั้งหมด แต่กลับกลายเป็นว่าพวกเขากลับใช้วิธีการหลอกลวงบางอย่างแทน มันจำเป็นหรือไม่? ฉันไม่คิดอย่างนั้น

สรุปโดยรวมส่วนตัวเราถือว่าสารดีของ F1 สามารถทำออกมาได้อย่างลงตัว ภาพสวย footage ปัง เล่าเรื่องได้ไม่น่าเบื่อ และยังเป็นธรรมชาติถือว่าสนุกสนานครบรสเลยนะ แต่อาจจะมีบางอย่างในซีรีย์ที่ทำออกมาดราม่าเกินจริงไปหน่อย ซึ่งสำหรับเราก็ไม่ได้ติดขัดอะไรเพราะเมื่อรวมกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วก็ทำให้สนุกสนานมากยิ่งขึ้นเพิ่มอรรถรสในการดู

สำหรับใครที่สนใจหรืออยากเปิดโลกในการดูสารคดีกีฬาอย่าง F1 ที่มีทั้งความดราม่า ความสนุกเข้มข้น และเนื้อหาสาระทั้งในสนามและเบื้องหลังของวงการ Formula 1 ก็สามารถไปรับชมกันได้บน Netflix เลย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 3 ซีซั่น และภายในปี 2022 นี้ทาง Netflix จะปล่อยซีซั่น 4 ที่เป็นการแข่งขันของปี 2021 มาให้ชมเช่นเดียวกัน ชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวได้ที่นี้ทีเดียว เว็บรีวิวหนัง