รีวิว Don’t Look Up

 

ฮัลโหลลผู้อ่านที่น่ารักทุก ๆ ท่านวันนี้เรามาพูดถึงหนัง Don’t Look Up กันนะครับผม หลังจากเปรี้ยงปร้างกับหนังเสียดสีวงการการเงินจากเรื่องจริงอย่าง ‘The Big Short’ (2015) ที่เข้าไปสร้างความหวือหวาในเวทีออสการ์ปี 2016 ผู้กำกับ อดัม แมกเคย์ (Adam McKay) ก็ดูน่าสนใจมากขึ้นในฐานะผผู้สร้างชื่อจากหนังตลกเบาสมองอย่าง ‘Anchorman’ (2004) มาสู่หนังตลกร้ายหนักสมองที่เอาเรื่องเครียดมาทำให้บันเทิงได้ดี และแน่นอนว่าฝีมือการเขียนบทอันแสบสันของแมกเคย์คือกุญแจความสำเร็จนั้น และอาวุธหนักที่เขาเลือกใช้ในกลยุทธ์นี้ก็คือบารมีระดับดึงดาราแม่เหล็กหลายคนมาร่วมงานกับเขาได้แม้บทจะดูบ้าบออย่างไรก็ตาม และถ้าเหตุผลเหล่านี้เป็นสิ่งที่คุณจะชอบหนังสักเรื่อง คุณจะรักหนังเรื่องนี้อย่างบ้าคลั่งเลยทีเดียว

 

 

หนัง Don’t Look Up เป็นหนังที่แมกเคย์จัดเจนในสิ่งที่ตัวเขามีและยกระดับการวิจารณ์สังคมไปอีกขั้น ด้วยเรื่องจริงที่เขาคิดว่าเป็นไปได้จะเกิดขึ้นถ้ามีดาวเคราะห์น้อยพุ่งมาชนโลกในวันหนึ่ง เหมือนเขาสร้างกล่องทดลองระบบปิดที่ใส่สังคมมนุษย์ลงไป ใส่ระบบนิเวศการเมืองและการบริหารแบบอเมริกัน เหยาะสารเร่งปฏิกิริยาให้ดูรุนแรงขึ้นนิดเพื่อเห็นผลชัดขึ้นไวขึ้นหน่อย แล้วมาดูว่าจะเป็นอย่างไร

ตัวหนังนั้นเล่าผ่านสายตาของ 2 นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นรองที่บังเอิญพบว่ามีดาวหางขนาดเท่าภูเขาเอเวอเรสต์กำลังมุ่งตรงมาโลกในอีกหกเดือน และพบว่าแทนที่การค้นพบของพวกเขาจะได้รับการตระหนักถึงในแบบที่จริงจังในหนังฮอลลีวูดทั้งหลาย ปรากฏว่าพวกเขาต้องเจอทั้งเจ้าหน้าที่รัฐที่มีหน้าที่โดยตรงแต่หาประโยชน์เล็ก ๆ น้อย ๆ กับความไม่รู้ของประชาชน, ประธานาธิบดีหญิงที่เจอปัญหาข่าวฉาวเล่นงานและมองเห็นแต่ผลการเลือกตั้งรอบหน้า, สื่อมวลชนที่อยากเล่าแต่ข่าวที่คนสนใจอย่างดาราเลิกกันและไม่อยากพูดถึงเรื่องร้ายต่าง ๆ และทุนนิยมบ้าบอคอแตกที่ทำให้เรื่องราวมันเตลิดเปิดโปงไปใหญ่โต ขนาดที่หลายความพลิกผันในเรื่องอาจทำเราร้อง หา! หัวเราะทั้งน้ำตาออกมาเลยทีเดียว

 

Look Up

 

เมื่อปีก่อน ๆ นั้นญี่ปุ่นมีหนังอย่าง Shin Godzilla (2016) ที่ อันโนะ ฮิเดอากิ (Anno Hideaki) เอาเรื่องสัตว์ประหลาดมาวิพากษ์การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์วิกฤตของญี่ปุ่น รอบนี้แมกเคย์ก็ทำในแบบเดียวกันแต่ด้วยแว่นแบบอเมริกันที่มีต่อวิกฤตระดับโลกอย่างอุกกาบาตล้างโลกแทน ใครเข้าใจจุดนี้จะดูหนังได้สนุกมาก ๆ และด้วยรสปรุงของแมกเคย์ที่มีความสากลกว่า ประกอบกับความเป็นอเมริกันมันน่าหมั่นไส้ในระดับโลกกว่า เป็นวัฒนธรรมที่คนทั้งโลกคุ้นเคยกว่า หนังมันเลยเข้าถึงคนได้ง่ายกว่าหนังของอันโนะด้วย

และ คริสเตียน เบล (Christian Bale) เลย เพราะรอบนี้ได้ทั้งตัวพ่ออย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาพริโอ (Leonardo DiCaprio) และตัวแม่อย่าง เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (Jennifer Lawrence) มารับบทนำ ซึ่งเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเอาดาราฝีมือมารับบท 2 นักดาราศาสตร์ตัวแทนสายตาผู้ชม เพราะตัวละครนี้ต้องดูธรรมดาและอาจถึงขี้แพ้ อารมณ์อ่อนไหวในหลายช่วง ในขณะเดียวกันต้องมีเสน่ห์พอให้เราชอบพวกเขาแม้จะทำผิดพลาดมากอย่างไรก็ตาม ต้องติดตามที่ เว็บดูหนัง

 

Look Up

 

ยังไม่พอเท่านั้นหนังยังสมทบด้วยดาราคับคั่งที่พร้อมมาเล่นไม่ว่าตัวละครพวกเขาจะบ้าบอขนาดไหนก็ตาม ทั้ง เมอรีล สตรีป (Meryl Streep) ในบทประธานาธิบดีสุดน่าหมั่นไส้ เคต แบลนเชตต์ (Cate Blanchett) กับบทพิธีกรสาวข่าวฉาว ทิโมธี ชาลาเมต (Timothée Chalamet) ในบทเด็กหนุ่มเสเพลที่ผ่านมา รอน เพิร์ลแมน (Ron Perlman) ในบทวีรบุรุษทหารคลั่งอนุรักษ์นิยม มาร์ก ไรแลนซ์ (Mark Rylance) ในบทเจ้าพ่อธุรกิจมือถือที่รวยอันดับ 3 ของโลก โจนาห์ ฮิลล์ (Jonah Hill) ในบทลูกชายไม่เอาไหนของประธานาธิบดีที่ได้ตำแหน่งสำคัญเพราะแม่ และไฮไลต์อีกคนคือนักร้องสาวคนดัง อารีอานา กรานเด (Ariana Grande) ที่มารับบทนักร้องดังและโชว์พลังเสียงสะกดผู้ชมแบบน่าจดจำด้วย

 

 

รีวิว Don’t Look Up

ผมจะบอกว่านี่คือหนังภัยพิบัติดาวหางพุ่งชนโลกฟอร์มยักษ์ หลายคนอาจจะนึกถึงหนังสไตล์ โรแลนด์ เอมเมอริช ผู้กำกับ ID4, 2012 ก่อน แต่พอเป็น อดัม แม็คเคย์ กำกับคงไม่มีทางเป็นเช่นนั้นแน่ เพราะผู้กำกับรายนี้เริ่มจากการทำหนังตลกสุดฮาอย่าง Anchorman และ Talladega Night (เรื่องนี้โคตรฮา ใครยังไม่เคยดูแนะนำมากๆครับ) แล้วมาทำหนังตลกเสียดสีแสบๆอย่าง The Big Short และ Vice ดังนั้นหนังดาวหางพุ่งชนโลกสไตล์เขา ต้องเป็นหนังตลกร้ายขั้นสุดอย่างแน่นอน และด้วยตัวบทภาพยนตร์ที่แสบถึงขั้น ทำให้ดึงดูดนักแสดงแถวหน้าของวงการมาร่วมงานมากมาย รวมถึง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ ที่สนใจโปรเจกต์จนเข้าร่วมพัฒนาบทด้วย เพราะหนังมีประเด็นภาวะโลกร้อนซึ่งเป็นสิ่งที่ลีโอรณรงค์อยู่แล้ว

ส่วนในหนัง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และเจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ (หนังเรื่องแรกของเธอหลังจากพักเบรกไป 3 ปี) รับบทสองนักดาราศาสตร์ที่ค้นพบความจริงช็อกโลก ว่าดาวหางขนาดใหญ่ราว 10 ตารางกิโลเมตรกำลังมุ่งหน้ามาพุ่งชนโลกในอีก 6 เดือน ซึ่งผลกระทบคือการสูญพันธ์ของมนุษย์ พวกเขาจึงรีบนำเรื่องนี้ไปแจ้งกับนาซ่า และเข้าพบปธน.อเมริิกา (ซึ่งรับบทโดย เมอรีล สตรีป) แต่เธอกลับไม่สนใจ เพราะมัวแต่วุ่นวายกับการเลือกตั้งกลางเทอม และห่วงคะแนนนิยมของเธอ ทั้งสองจึงเดินสายเพื่อไปออกสื่อ เพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงปัญหาใหญ่หลวงที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่แล้วก็ยังไม่มีใครสนใจพวกเขาอยู่ดี ? ติดตามได้ที่ เว็บดูหนังไม่มีโฆษณา

 

 

หนัง Don’t Look Up คือหนังตลกร้ายที่แสบขั้นสุด ไม่แปลกใจที่นักแสดงเบอร์ใหญ่ๆจะเรียงแถวมาร่วมแสดง เพราะมันพูดในประเด็นที่หนักหนาด้วยท่าทีเสียดสีขั้นหนัก เริ่มจากเป้าใหญ่คือ นักการเมืองและนายทุน ที่แม้แต่โลกใกล้จะแตกแล้ว พวกเขายังเอาแต่จะรักษาผลประโยชน์ของตัวเอง รัฐบาลห่วงแต่คะแนนนิยม จนบางทีสร้างเฟคนิวส์มาหลอกประชาชน (คุ้นๆมั้ย)

ฝั่งของนายทุนเองก็ไม่สนว่าโลกจะฉิบหายขนาดไหน ขอเอาเงินกำไรมาเป็นตัวนำในการตัดสินทุกอย่าง นอกจากนี้หนังจะเสียดสีไปยังหลายๆวงการ อาทิ สื่อมวลชน ที่เสนอแต่ข่าวเชิงสนุกสนาน ดราม่าในแบบที่ประชาชนอยากเสพ พออะไรที่มีประโยชน์ก็ถูกถ่ายทอดให้เบาลงซะงั้น ความปลอมของเหล่าเซเลบริตี้ รวมถึงเสียดสีความไร้สาระของโลกโซเชียล และประเด็นอื่นๆอีกเพียบ

 

รีวิว Don't Look Up

 

ส่วนสิ่งที่ทำให้ขนลุกมากระหว่างดู Don’t Look Up คือหลายฉากหลายประเด็นชวนนึกถึงประเทศไทยอย่างน่าตกใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่อย่างการฮั้วกันของรัฐบาลกับเอกชนยักษ์ใหญ่ (ก็คงเป็นกันทั้งโลก) การบิดเบือนความจริงเพื่อให้ประชาชนกลุ่มที่สนับสนุนพวกเขาสนับสนุนต่อ

แม้จะมีปัญหาใหญ่กองอยู่ตรงหน้าก็ตาม อย่างในหนังคือการที่ดาวหางจะพุ่งชนโลก แค่แหงนหน้ามองก็เห็นปัญหาแล้ว แต่รัฐบาลกลับออกแคมเปญ Don’t Look Up ตามชื่อหนังมาซะงั้น ให้ประชาชนก้มหน้าก้มตา พอพวกเขาไม่เห็นปัญหา ทุกอย่างก็จบ ซึ่งมันคุ้นมากกกก รวมไปถึงรายละเอียดยิบย่อยในหนังอย่างการอุ้มหาย เพราะใครพูดจาไม่เข้าหู พูดความจริงในเรื่องที่ผู้มีอำนาจไม่อยากให้พูด ก็ส่งคนไปอุ้มหายเสียเฉยๆ มันช่างคุ้นกับประเทศแถบนี้จริงๆ

 

Don't Look Up

 

แล้วก็นอกจากบทที่ตลกร้ายจัดเต็มแล้ว สีสันหลักของหนังคงหนีไม่พ้นทีมนักแสดงนำ ที่ถ่ายทอดทั้งดราม่าและตลกแสบๆได้เต็มทุกคน อย่างลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ มีทั้งซีนฮาแตกและซีนโวยวายดราม่าหนักที่จัดเต็มมาก ในขณะที่ เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์ ตัวละครเธอค่อนข้างจริงจัง ก็เล่นได้น่าเชื่อถือกว่าทุกคน ส่วนคนอื่นๆในหนังมาในสายตลกแสบทั้งหมด

เริ่มจาก เมอรีล สตรีป และโจนาห์ ฮิลล์ เป็นคู่แม่ลูก ปธน.อเมริกาที่ Ignorant ได้อย่างสุดกู่มาก แต่ที่ต้องกล่าวถึงจริงๆคือ มาร์ก ไรแลนซ์ นักแสดงเจ้าของออสการ์จาก Bridge of Spies ที่เล่นเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ (ที่หนังน่าจะมีใครบางคนเป็น Reference) เล่นได้แบบตลกหน้าตายสุด

และหากชอบบทความนี้ อยากติดตามการรีวิวหนัง สปอยหนัง ไม่ว่าจะเป็น หนังใหม่ หรือ หนังมาแรง ทุกเรื่อง ทุกแนว ได้ที่ เว็บรีวิวหนัง