รีวิว Almost Famous

คริสต์มาสปี 1969 เมืองซานดิเอโก แคลิฟอร์เนีย แม่ของ William Miller หลอกเขามาตลอดว่าเขาอายุ 13 แต่จริง  เขาอายุแค่ 11 ขวบ (เขาเป็นเด็กหัวไว เรียนป.1 ตั้งแต่ 5 ขวบ นั่นเลยทำให้เพื่อนชั้นเดียวกันที่โตกว่าล้อและไม่ยอมรับไม่กี่วันให้หลังจากที่รู้ความจริง ดูได้ที่ ดูหนัง

 

 

 Anita Miller ทนไม่ได้ที่แม่ห้ามให้เธอและน้องชายฟังเพลงร็อกเพราะแม่เชื่อว่าเป็นเพลงที่พูดถึงแต่เซ็กซ์และยาเสพติด พออายุ 18 เธอไม่พูดกับแม่อีกและตัดสินใจไปเป็นแอร์โฮสเตส ก่อนไปได้ทิ้งแผ่นเสียงจำนวนนึงไว้ให้วิลเลียมและบอกเขาว่า ‘สักวันนึงนายจะกลายเป็นคนที่เจ๋ง

ปี 1973 เป็นเวลาสี่ปีที่วิลเลียมซึมซับและเขียนถ่ายทอดเรื่องราวของวงดนตรีที่เขาชอบลงนิตยสารของโรงเรียน และส่งไปให้ Lester Bangs บรรณาธิการนิตยสาร Creem อ่านจนได้รู้จักกัน

เขานี่แหละคือคนแรกที่ยอมรับวิลเลียม และจ้างให้ไปสัมภาษณ์ Black Sabbath รวมถึงรีวิวคอนเสิร์ตลงเล่ม หลังจากนั้นก็ถูก Ben Fong-Torres แห่งนิตยสาร Rolling Stone ทาบทามให้เขียนถึงวงร็อกดาวรุ่ง Stillwater และตามไปทัวร์กับพวกเขา

นั่นคือเนื้อเรื่องคร่าว  ของ Almost Famous ภาพยนตร์ปี 2000 ของผู้กำกับ Cameron Crowe ที่เล่าชีวิตของนักเขียนสายดนตรีวัยกระเตาะคนนึง ซึ่งเป็นเรื่องจริงในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเขาเอง โครวนี่แหละคือนักเขียนรับเชิญที่อายุน้อยที่สุดของ Rolling Stone ผู้เคยสัมภาษณ์ Bob Dylan, David Bowie, the Eagles, Eric Clapton, Neil Young 

และสมาชิกบางคนของ Led Zeppelin มาแล้ว ว่ากันว่าแรงบันดาลใจใน Almost Famous Tour ’73 มาจากตอนที่ Rolling Stone ส่งเขาไปทำสกู๊ปครั้งแรก และวงที่เขาต้องไปตามทัวร์ก็คือ The Allman Brothers Band ซึ่งเป็นแรงบันดาลใจของวง Stillwater ในเรื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงเป็นปีเดียวกันกับที่เล่าในหนัง

นี่ไม่ใช่แค่หนังที่ตีแผ่เรื่องราวของวงการร็อกแอนด์โรลยุค 70s หรือเรื่องที่ถูกพูดซ้ำ  ในหนังเกี่ยวกับอุตสาหกรรมบันเทิง ฉากหน้าของหลาย  วงที่มีสปอตไลต์สาดส่องในฐานะศิลปิน แท้จริงอาจจะไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าการอยากมีชื่อเสียง เงิน และรายล้อมไปด้วยผู้หญิง หรืออีกฝั่งก็เล่าเรื่องกรุ๊ปปี้อกหักเพราะเผลอใจให้นักดนตรี

เพราะสิ่งที่ทำให้Almost Famousไม่เหมือนเรื่องอื่นคือการเล่าจากประสบการณ์ตรงของโครว ซึ่งทำให้ถ่ายทอดได้เรียลเสียเหลือเกิน (ตัวละครในเรื่องบางตัวมีชีวิตอยู่จริง  อย่างบรรณาธิการของ Creem และ Rolling Stone ที่เล่าไปตอนต้น) โดยเฉพาะการพูดถึง music journalist หรือ ‘นักข่าวสายดนตรี’ ว่าอาชีพในฝันของใครหลายคนนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย และมันมีกฎกติกาบางอย่างในวิชาชีพนี้ที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ไม่ว่าจะสายงานไหน การเป็น ‘หน้าใหม่’ และยัง ‘อายุน้อย’ ทำให้สูญเสียความน่าเชื่อถืออย่างช่วยไม่ได้ในระดับนึง การเริ่มต้นมาเป็นนักเขียนของวิลเลียมหรือเราเองก็เป็นสิ่งที่ถูกตั้งคำถามมาโดยตลอด (วิลเลียมเขียนลง Rolling Stone ตอนอายุ 15 เราเริ่มเขียนลง Fungjaizine ตอนอายุ 21) กว่าที่คนอ่านจะยอมรับต้องผ่านการพิสูจน์ตัวมามากมาย

ทั้งการต้องฟังเพลงให้เยอะ ทำรีเสิร์ช ไปขอสัมภาษณ์และถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า ไปตามทัวร์ ใช้ชีวิตร่วมกับศิลปิน ซึ่งการนำมาเรียบเรียงเป็นเรื่องราวให้แฟนหนังสือที่คาดหวัง ‘บทความคุณภาพ’ ก็ยิ่งเพิ่มความกดดันเป็นทวีคูณ และระหว่างนั้นเองก็มี ‘บททดสอบ’ ที่สื่อทุกคนน่าจะเคยเจอ

Philip Seymour Hoffman นักแสดงในตำนานผู้รับบท Lester Bangs พูดว่า ‘ถ้าจะเป็นนักเขียนดนตรี ข้อแรก เงินน้อยนะ แต่จะได้เพลงไปฟังฟรี  จากค่ายเพลง แล้วเขาจะเลี้ยงเหล้านาย จะได้เจอสาว 

เขาจะออกค่าเดินทางให้นายไปทำข่าว บางทีก็มียาให้ดูด มันดูเจ๋งใช่ไหม แต่พวกเขาไม่ใช่เพื่อนของนาย คนพวกนี้อยากให้นายเขียนเรื่องดี  เกี่ยวกับอัจฉริยภาพของร็อกสตาร์พวกนั้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้แหละที่จะทำให้ร็อกแอนด์โรลพัง และฆ่าทุกอย่างที่เราให้รักตายไป

ดนตรีไม่ได้เป็น pure art แต่กลายมาเป็น commercial art เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าหลายคนก็หาเงินจากมัน และเราก็เป็นหนึ่งในกลไกของระบบ ฟังดูมืดมนนะ แต่สิ่งที่เราพอจะทำได้คือมีความรับผิดชอบกับวิชาชีพ แบบที่แบงส์บอกวิลเลียมว่า ‘นายต้องมีชื่อจากความซื่อสัตย์ และอย่าใจดี… ฉันรู้ว่านายคิดว่าพวกเขาคือเพื่อนของนาย

รีวิว Almost Famous

 แล้วถ้าอยากจะจริงใจกับเพื่อนพวกนั้น ก็เขียนอย่างที่รู้สึกและอย่าได้ปรานี’ สุดท้ายแล้ว connection ก็หันกลับมาแว้งกัดเราในบางครั้ง มันทำให้เราลืมว่า ‘หน้าที่’ ของสื่อคืออะไร การวิจารณ์อย่างตรงไปตรงมาไม่ใช่เรื่องเลวร้ายหากเป็นการติเพื่อก่อ เพียงแต่ว่าเป็นสิ่งที่หลายคนไม่ได้ยอมรับกันง่าย  เท่าคำชื่นชมสวยหรู อย่าลืมไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

อันที่จริงสื่อแต่ละหัวก็มีรสนิยมที่ชัดเจน และเพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงการปะทะสื่อจึงเลือกนำเสนอสิ่งที่เขาคัดกรองมาแล้ว แต่การกระทำของวิลเลียมเป็นอะไรที่เท่มาก การที่เขาชอบ Stillwater และวงร็อกแอนด์โรลหลาย  วงที่เกลียดนิตยสาร Creem ที่เขาทำงานให้ (ตอนต้นเรื่องวงดนตรีเรียกเขาว่า the Enemy

เพราะพวกเขามองว่าสื่อนี่แหละสามารถสร้างและทำลายชื่อเสียงของวงได้ในเวลาเดียวกัน) วิลเลียมก็ยังดื้อด้านจะนำเสนอ ซึ่งแบงส์ก็เท่ไม่แพ้กันในฐานะบรรณาธิการที่ให้อิสระและให้คำปรึกษาวิลเลียมเต็มที่แม้จะไม่ชอบวงพวกนั้นก็ตาม

ปี 2019 เรากลับมาดู Almost Famous เป็นครั้งที่ 3 ก็ยิ่งเห็นตัวเอง แม้ว่าจะไม่ได้เก่งเท่าวิลเลียม แต่จุดเริ่มต้นของการมาเป็นนักเขียนดนตรีก็มาจากการชอบฟังเพลง การเขียนรีวิวคอนเสิร์ตแล้วอ่านกันเองในกลุ่มเพื่อน โดนแม่โทรตามและไม่เข้าใจงานที่เราทำแบบวิลเลียมเป๊ะ  แต่เราก็ยังไม่หยุดและทำให้แม่ยอมรับได้ในที่สุด (ด้วยการพาแม่ไปคอนเสิร์ตด้วยเลย ฮ่า)

นอกจากนี้มันยังสะท้อนคนรอบตัวที่เราเจอ น่าตกใจว่าสิ่งที่แบงส์พูดกับวิลเลียมเสมอคือเขาไม่ใช่คนคูล ‘The only true currency in this bankrupt world is what you share with someone else when you’re uncool.’ ใจความเดียวกับที่อาจารย์ที่ปรึกษาของเราพูดเสมอ  ว่า

การไปคอนเสิร์ตของบางคนมันไม่ใช่แค่การเสพดนตรี บางคนอยากมีตัวตน อยากสังสรรค์กับเพื่อน อยากใกล้ชิดกับศิลปิน หรือกระทั่งอยากมีความสัมพันธ์กับศิลปินก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นแบบนี้มาตั้งแต่ปี 70s หรือก่อนหน้านั้น 

 

รีวิว Almost Famous

 

เราไม่เห็นด้วยซะทีเดียว (แต่ก็ไม่ได้สนับสนุนให้ทำ) บางทีในสิ่งที่ทุกคนคิดว่ามันเป็นความฉาบฉวยนั้น สำหรับบางคน ดนตรีศักดิ์สิทธิ์ยิ่งกว่าศาสนา พร้อมยอมพลีทุกสิ่งอย่างให้โดยไม่ทันคิดว่าจะถูกเอาเปรียบทั้งเวลา ร่างกาย หรือแม้แต่ความรู้สึก เรื่องราวของคนกลุ่มนี้เองที่ถูกเล่าผ่าน Penny Lane สาวสวยที่วิลเลียมหลงรัก

เพนนี เลน หญิงสาวปริศนาที่ใช้ชื่อเดียวกับเพลงของ The Beatlesเธอและผองเพื่อน ‘Band Aid’ เลือกจะใช้ชีวิตหลังเวที สร้างความสุขให้วงดนตรีที่เธอชอบ เพนนีเชื่อว่าความรู้สึกที่มอบให้ทุกคนเป็นของจริง แต่มีใครบ้างที่มอบความรักที่แท้จริงให้เธอ ในสายตาของคนทั่วไปหรือวงพวกนั้นมองเธอเป็นแค่กรุ๊ปปี้

นี่อาจเป็นเหตุผลที่เพนนีเลือกที่จะมีตัวตนสมมติ ไม่เปิดเผยชื่อจริงหรือเรื่องราวภูมิหลังในชีวิต เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าสิ่งนี้มันไม่จริง อาจจะมีความโหดร้ายไม่ต่างไปจากโลกข้างนอกเท่าไหร่ด้วยซ้ำ แต่เธอยินดีจะอยู่เพราะความรักในเสียงดนตรีและหวังจะเห็นวงเหล่านั้นประสบความสำเร็จ (แม้มันจะเป็นชื่อเสียงจอมปลอม กับเงินทองที่เอาไปถลุงกับเหล้ายาในเวลาต่อมา

ตามสไตล์ร็อกสตาร์ยุคนั้นน่ะนะแรงบันดาลใจของตัวละครนี้มาจาก ‘Flying Garter Girls’ กลุ่มเพื่อนสาวที่ใช้ชื่อสมมติในการช่วยผลักดันวงร็อกหลายวง หนึ่งในนั้นคือ Pennie Ann Trumbull ที่ใช้ชื่อว่า ‘Pennie Lane’ แบบในเรื่อง อ่านเรื่องราวชีวิตจริงของเธอได้

ฉันบอกพวกสาว  เสมอว่า อย่าจริงจังกับพวกนั้นเชียว เมื่อใดก็ตามที่เธอไม่จริงจัง เธอจะไม่เจ็บ พอเธอไม่เจ็บ เธอก็จะมีแต่ความสนุก แล้วเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอรู้สึกเหงา ก็ไปร้านแผ่นเสียงซะ เพลงพวกนั้นจะเป็นเพื่อนของเธอเอง

รีวิวจากผู้ชมทั่วโลก

แพทริก ฟูกิต นักเขียนเยาวชนมากความสามารถ ได้รับโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต ได้เดินทางไปกับวงดนตรีร็อคระดับกลางในฐานะนักข่าว หากผลงานออกมาดี โรลลิงสโตนอาจหยิบขึ้นมาและประกอบอาชีพของเขา Billy Crudup พยายามจะตรึงวงดนตรีไว้เพื่อสัมภาษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้นำที่เข้าใจยาก Billy Crudup ยากกว่าที่คุณคิด คนเหล่านี้ในวง Stillwater เกือบจะโด่งดัง พวกเขาอยู่ห่างออกไปเพียงก้าวเดียว แต่ก็เป็นก้าวที่ยาก Billy Crudup เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เก่งที่สุดในปัจจุบัน และนี่คือการแสดงของเขาคือ Russell Hammond นักร้องนำของ Stillwater ที่ภาพยนตร์เรื่องนี้มีบทบาทสำคัญ มันเป็นบทบาทที่ซับซ้อนมาก ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

 

และเราเห็นทุกด้านของรัสเซลล์ แฮมมอนด์ มีความสามารถ มีเสน่ห์ดึงดูด ซื่อสัตย์ ตามใจตัวเอง ชอบเอาใจเอาเรื่อง ทั้งหมดนี้มีอยู่และอีกมากมาย คุณฟูกิตอายุน้อยจะซื่อสัตย์ได้แค่ไหน การเป็นแฟนจะหยุดและเริ่มต้นการเป็นนักข่าวได้อย่างไร Fugit อาจไม่รู้ แต่สมาชิกในวงยังคงถามคำถามต่อไป เคท ฮัดสันอยู่ใกล้ๆ และเล่นได้ดีพอๆ กับสาว ‘เพนนี เลน’ ที่ติดตามสติลวอเตอร์ เธอไม่ใช่กรุ๊ปบี

คำที่เธอชอบคือ Band Aide และฟรานเซส แมคดอร์มานด์ก็อยู่ใกล้ๆ กับเป็นแม่ของฟูกิตที่คอยตรวจสอบลูกชายของเธออยู่เสมอเพื่อดูว่าเขาไม่ได้สนุกกับชีวิตดีๆ ในฉากร็อคมากเกินไป เกือบจะโด่งดังเป็นภาพกราฟิกของฉากร็อคของช่วงกลางทศวรรษ ผู้กำกับคาเมรอน โครว์ทำได้ดีมากในการบันทึกอารมณ์ของเวลาตลอดจนการแสดงที่ดีของนักแสดง ยังคงเป็นภาพของ Billy Crudup และนี่คือสิ่งที่แฟนๆ ห้ามพลาด

ผลงานชิ้นเอกของคาเมรอน โครว์เกี่ยวกับนักเรียนมัธยมปลาย วิลเลียม มิลเลอร์ (แพทริก ฟูกิต) ที่ได้ร่วมงานกับโรลลิง สโตน เพื่อสร้างเรื่องราวเกี่ยวกับวงดนตรีที่ชื่อสติลวอเตอร์ เด็กไร้เดียงสาและไร้เดียงสาได้ออกไปเที่ยวกับพวกเขา ซึ่งเขาเติบโตอย่างรวดเร็วและพบว่าโลกไม่ได้สมบูรณ์แบบเสมอไป ALMOST FAMOUS เป็นภาพยนตร์แนว Comet-Age ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งเท่าที่เคยมีมา
และอาจเป็นเรื่องราวความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เคยถ่ายทำแบบร็อกแอนด์โรล ไปรับชมเลยที่ ดูหนังออนไลน์
ฉันคิดว่าการโต้เถียงที่หนักแน่นอาจทำให้เป็นภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งทศวรรษเช่นกัน มีความรักและความหลงใหลมากมายในทุกฉากที่คุณอดไม่ได้ที่จะมองเห็นและรู้สึกว่านี่คือลูกของโครว์และมันง่ายที่จะเห็นว่าทำไมเรื่องนี้ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับชีวิตของเขาที่เติบโตขึ้นมา ภาพยนตร์เรื่องนี้มีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมมากมาย
แต่ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้มันพิเศษมากคือความสัมพันธ์ที่หลากหลายที่เกิดขึ้นบนท้องถนน ซึ่งรวมถึงวิลเลียมที่พยายามผสมผสานกับมือกีต้าร์ของวง (บิลลี่ ครูดัพ) ที่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กับเขาและหญิงสาว (เคท ฮัดสัน) ที่ทั้งคู่รักด้วยเหตุผลที่แตกต่างกัน คุณแม่ที่กังวลมากเกินไป (Frances McDormand) เขียนบทได้สมบูรณ์แบบและถูกใส่เข้าไปในเรื่องราวเพื่อบรรเทาความขบขัน
แต่แม้แต่ตัวละครตัวเล็กๆ ก็ยังเขียนได้ดีและมีรายละเอียดมาก จนเมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้จบลง เกือบจะเหมือนกับว่าคุณเคยดูสารคดีเรื่อง วงดนตรีที่แท้จริง ทิศทางของโครว์ไม่เคยดีไปกว่านี้แล้ว
เนื่องจากภาพยนตร์เรื่องนี้มีอารมณ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย แต่เขาก็จับมันไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบและทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก้าวไปสู่ระดับที่ไม่คาดคิด ในฐานะแฟนเพลงร็อกแอนด์โรล คุณต้องรักการชมเบื้องหลังการทัวร์และปัญหาต่างๆ ที่มาจากเรื่องเพศและยาเสพติด คุณต้องสนุกและชื่นชมเด็กหนุ่มคนนี้ที่สามารถออกไปเที่ยวข้างนอกได้
รีวิว Almost Famous
เพราะนี่จะเป็นงานในฝันของใครหลายๆ คน ภาพยนตร์เรื่องนี้ผสมผสานดนตรีที่ไพเราะ แต่จุดเด่นคือ ‘Tiny Dancer’ จาก Elton John ซึ่งเป็นหนึ่งในฉากที่ดีที่สุดและมหัศจรรย์ที่สุดจากภาพยนตร์เรื่องใดเรื่องหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย
การแสดงทั้งหมดเป็นข้อดีที่สำคัญตั้งแต่การแสดงที่ใหญ่กว่าไปจนถึงบทบาทที่เล็กกว่า ทุกคนเหมาะกับบทบาทของตนอย่างสมบูรณ์แบบและช่วยทำให้เรื่องราวเป็นจริง ALMOST FAMOUS เป็นภาพที่ไร้ที่ติที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ
ในการรับชมใหม่ๆ แต่ละครั้ง บางคนบอกว่าภาพยนตร์เรื่องนี้นิ่มเกินไปและควรจะโจมตีดนตรีให้หนักขึ้นหรือรุนแรงขึ้น แต่ฉันไม่เห็นด้วยกับความคิดเห็นเหล่านี้จริงๆ ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวความรักต่อดนตรีและเป็นหนึ่งในภาพยนตร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เว็บรีวิวหนัง