รีวิว 13 Hours

 

 

สวัสดีทุกคน…ช่วงนี้ก็เพิ่งผ่านปีใหม่เข้าสู่เดือนที่3ของปี หลายคนก็ลุยงานกันอย่างต่อเนื่อง บ้างคนก็หยุดอยู่บ้านเพราะพิษของCovid-19เล่นงานเอา แต่ยังไงๆคนที่ลุยงานก็อย่าลืมพักร่างกาย และอย่าลืมป้องกันดูแลสุขภาพตัวเองอย่างเคร่งครัดด้วยนะครับ ยังไงก็แล้วแต่ในวันหยุดสุดสัปดาห์

 

หรือใครที่หยุดงานหรือมาทำงานที่บ้านหลายคนก็พักผ่อนด้วยการหาหนังมาดู หรือหาซีรีส์มาดูสักเรื่องในวันพักผ่อน วันนี้เราจะมาชวนดูหนังเรื่องหนึ่ง สำหรับสายหนังแนวสงครามหรือสายทหารหน่วยรบพิเศษ และเรื่องนี้ก็ได้สร้างมาจากเรื่องจริงอีกด้วย นั่นก็คือเรื่อง”13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi” ดูหนังฟรี,ดูหนังออนไลน์ 

 

“13 Hours : The Secret Soldiers of Benghazi หรือในชื่อไทย : 13 ชม. ทหารลับแห่งเบงกาซี ” และภาพยนต์เรื่องนี้ได้ ‘ไมเคิล เบย์(Michael Bay)’ เจ้าของแฟนชายน์หนังนักรบหุ่นยนต์อย่าง”Transformers” กระโดดมารับหน้าที่ผู้กำกับเรื่องนี้ หนังได้ดัดแปลงมาจากหนังสือที่เขียนโดย Mitchell Zuckoff ที่ได้เขียนขึ้นจากเหตุการณ์จริง ของทหารลับ6นายที่ขนานนามว่า’6พระกาฬ’ รีวิวแอ็คชั่น

รีวิว 13 Hours

รีวิว 13 Hours พล็อตเรื่องรวม

ได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาความปลอดภัยให้กับฐานลับCIA ในประเทศลิเบีย บอกเล่าชีวิตของทหาร6นายที่ปฏิบัติการดูแลฐานลับCIAในตริโปลี ซึ่งในขณะนั้นเหตุการณ์บ้านเมืองของประเทศลิเบียกำลังวุ่นวาย เพราะประเทศอยู่ในช่วงโค่นล้ม ‘นายพลกัตดาฟี’ และทำให้คนสำคัญของประเทศอย่าง’ฑูตคริสโตเฟอร์ สตีเวนส์’เสียชีวิต ซึ่งในขณะนั้น CIA สหรัฐที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าจับตาอาวุธร้ายแรง ที่กระจายเข้าตลาดมืดของโลก เหตุการณ์นี้ถือว่าเป็นอีก 1 เหตุการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์โลกอีกด้วย

 

หนังเรื่องนี้นักแสดงมากนำฝีมืออย่าง ‘จอห์น คราซินสกี้(รับบทเป็น แจ็ค ซิลวา), เจมส์ แบดจ์ เดล (รับบทเป็น โรน – ไทโรน วูดส์), ปาโบล ชไรเบอร์ (รับบทเป็น ทันโต้ – คริส พารอนโต้), แม็ก มาตินี่ (รับบทเป็น ออซ – มาร์ก อีเจส), โดมินิค ฟูซูมา (รับบทเป็น ทิก – จอห์น ไทเจ็น), เดวิด เด็นแมน (รับบทเป็น บูน – เดฟ เบ็นตัน), เดวิด คอสตาไบล์ (รับบทเป็น บ็อบ – หัวหน้าฐานลับCIA)’ นอกจากนี้ยังมีนักแสดงสมทบอีกมากมาย รีวิวหนังสงคราม

 

(สปอยส์) “13 Hours : The Secret Soldiers of Benghazi หรือในชื่อไทย : 13 ชม. ทหารลับแห่งเบงกาซี ” หนังเปิดเรื่องมาบอกเล่าเหตุการณ์ต่าง ๆ เป็นเหตุความวุ่นวายในประเทศลิเบีย และเปิดตัวพระเอก ‘แจ็ค ซิลวา’ ที่นั่งบนเครื่องบินกำลังเก็บแหวนแต่งงานใส่กล่องเล็ก ๆ และพอเขาลงมาจากเครื่องบินก็ต่างมีประชาชนมองมาที่เขาไม่ขาดสายเพราะ ‘แจ็ค’ เป็นอเมริกา และ ‘แจ็ค’ ก็รีบเดินไปขึ้นรถพร้อมกับ’โรน’หัวหน้าทีมทหารลับที่เดินไปสำรวจความ

 

เรียบร้อยให้กับ’แจ็ค’ ระหว่างทางที่กำลังกลับฐาน ‘โรน’ และ ‘แจ็ค’ ได้เจอกับกองกำลังปฏิวัตที่อาวุธหนัก ‘โรน’ ขอกองกำลังตอบโต้เร็วของทีมตัวเองแต่ไม่ไดรับอนุญาต บอกให้รอกองกำลังของพื้นที่ทำงานร่วมกับอเมริกาอย่าง ’17กุมภา’ แต่ ‘โรน’ ได้ออกอุบายขู่ผู้ร้ายว่า ‘นายพร้อมตายเพื่อชาติขนาดไหนละ เราพร้อมตายเพื่อชาติตรงนี้เดี็๋ยวนี้เลย’ และสุดท้ายทางกองกำลังปฏิวัตปล่อยเขาไป (เปิดฉากแรกมาอย่างเท่) รีวิวหนังสารคดี

 

เมื่อ ‘โรน’ และ ‘แจ็ค’ กลับมาถึงฐานก็โดนหัวหน้าฐานลับตำหนิ เหน็บแนมเกี่ยวกับทีมทหารของ ‘โรน’ หลังจากนั้น ‘แจ็ค’ ก็เข้าพบหัวหน้าฐาน ๆ ก็บอกว่าเขาไม่ได้ต้องการ ‘แจ็ค’ แต่เบื้องบนต้องการหาคนเพิ่มมาคุ้มกันฐานลับ และ ‘แจ็ค’ ได้พบสมาชิกทีมทหารลับ

 

ทั้งทีมประกอบไปด้วย’แจ็ค, โรน, ทันโต้, ออซ, ทิก, บูน (6 พระกาฬ)’ วันต่อมาทีมทหารทั้งหมดต้องออกไปทำภารกิจคุ้มกันคนในฐานลับ ที่ได้รับหน้าที่ออกไปเจรจากับนักธุระกิจท้องถิ่น ก็เจรจาไม่ถึงไหน ‘แจ็ค’ ก็ได้รับการส่งซิกว่าต้องรีบกลับฐานด่วนเพราะทีมโดนตาม ระหว่างทางก็ได้ขับรถหนีพวกที่ตามทีม จนสุดท้ายก็รอดมาถึงฐานลับอย่างปลอดภัย

 

เมื่อใกล้วันครบรอบเหตุการณ์ 11 กันยา 2001 (เหตุการณ์เครื่องบินชนตึกเวิลด์เทรด เซ็นเตอร์ (World Trade Center)หรือโศกนาฏกรรม 9/11) ทีมทหารของฐานลับก็ได้มอบหมายให้ไปอารักขาบุคคลสำคัญของอเมริกา นั่นก็คือ ‘ฑูตคริสโตเฟอร์ สตีเวนส์’ เอกอัครราชฑูตสหรัฐฯประจำลิเบีย ที่ได้พบปะผูกสัมพันธมิตรกับนักการเมืองของลิเบีย ‘แจ็ค’

 

และทีมทหารลับก็พากันดูความปลอดภัยคร่าว ๆ ที่พำนักชั่วคราวของฑูต และการที่ ‘ฑูตคริสโตเฟอร์’ พบปะผูกสัมพันธมิตรกับนักการเมืองของลิเบีย เป็นการเสี่ยงมากหากมีการทำข่าวเผยแพร่ออกไป เมื่อถึงวันงาน10กันยายน ขณะที่ฑูตกำลังพูดคุยกับอีกฝ่านก็ได้มีนักข่าวเข้ามาทำข่าว ทางฑูตก็ยินดีให้นักข่าวถ่ายภาพการพบปะกันในครั้งนี้ และภารกิจครั้งนี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

 

เมื่อมาถึงวันอังคาร 11 กันยายน 2012 (ซึ่งวันตรงกับเหตุการณ์ 11 กันยา 2001) ซึ่งวันนี้เป็นวันพักผ่อนของ ‘ฑูตคริสโตเฟอร์’ และบอดี้การ์ด และเป็น 13 ชม. แห่งค่ำคืนที่แสนจะยาว เมื่อมีกองกำลังติดอาวุธหนัก คือประชาชนที่ลุกฮือขึ้นมารวบรวมกำลังพล มาถล่มที่พำนักสถานทูตทำให้ทูตต้องหลบ

รีวิว 13 Hours

เข้าไปในห้องนิรภัยและบอดี้การ์ดที่ต้องหาที่หลบ และได้วิทยุไปขอความช่วยเหลือทางหน่วยรบ G.R.S. (6พระกาฬ) ที่อยู่ฐานลับ CIA ที่ตริโปลีที่ใกล้ที่สุด แต่ทาง ‘โรน’ และทีมไม่ได้รับการอนุญาตจากหัวหน้าฐานลับ ทำให้สถานฑูตอเมริกาในลิเบียวุ่นวายมาก ทางสถานฑูตอเมริกาแก้ปัญหาโดยให้ทีมทหารท้องถิ่น ’17 กุมภา’เข้าช่วย แต่เหตุการณ์ก็เลวร้ายมากยิ่งขึ้น เมื่อกลุ่มคนร้ายบุกเข้ามายังห้องนิรภัย และได้รมควันให้ทูตเพื่อบีบบังคับให้ออกมา

 

ทางด้านทีม 6 พระกาฬที่ได้ฝ่ากฏออกมาช่วย ได้แบ่งทีมแยกย้ายไปดูสถานการณ์ ‘โรน’ และ ‘แจ็ค’ ก็ได้ไปที่พำนักฑูต บอดี้การ์ดรอดมาได้ 1 คน ทำให้ ‘โรน’ และ ‘แจ็ค’ ต้องพยายามฝ่ากองไฟเข้าไปหาท่านฑูตแต่ก็ไม่เจอ ทีม 6 พระกาฬรีบช่วยเหลือและรีบเก็บหลักฐาน เพื่อกลับฐานลับให้เร็วที่สุด

 

เมื่อเคลียร์สถานการณ์เสร็จทุกคนรีบหลบหนีกลับฐานลับ ระหว่างทางรถทีมบอดี้การ์ดได้โดนกราดยิงจนยับแต่ก็รอดมาได้หวุดหวิด เหล่า 6 พระกาฬทำการแบ่งทีมประจำการเพื่อรับมือจากกลุ่มคนร้าย และก็เป็นไปตามคาด กลุ่มผู้ร้ายก็ได้ตามยังฐานลับและได้ทำการเปิดฉากปาระเบิดเข้ามา ทีมทหารต้องยิงต่อปะทะกับคนร้าย และการปะทะกันมาเป็นระลอก และเหตุการณ์จะเป็นอย่างไร จะบู๊ขนาดไหน ก็ไปหามาดูกันเอาเองนะ (แต่บอกเลยมันส์มาก)

 

พูดถึงตัวหนัง…ตอนแรก ๆ อาจดูเรื่อย ๆ ไม่ได้เปิดฉากบู๊มาเลย แต่ตัวหนังเริ่มเพิ่มความตื่นเต้น และรอลุ้นว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อถึงฉากบู๊ก็บู๊แบบยาว ๆ เต็มอิ่มมาก ไล่ระดับความมันส์การปะทะในหนังที่เพิ่มเลเวลความมันส์และแรงขึ้น รอลุ้นตื่นเต้นจากเหตุการณ์ว่าทีม6พระกาฬ จะไปช่วยไหมและจะเป็นยังไงต่อ

 

หนังสร้างมาจากเรื่องจริงและบอกเล่าเหตุการณ์ได้ค่อนข้างละเอียดนะ หนังทำให้เราตื่นเต้นมากขึ้นว่าเหตุการณ์จะเป็นยังไงเพราะเคยได้ยินแค่ข่าว หนังยังบอกเล่าไปถึงการติดต่อขอความช่วยเหลือกับรัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ตีแผ่เหตุการณ์ได้ดีมาก พอได้ดูถึงตอนจบก็รู้สึกเศร้าป่นภูมิใจนะ ที่เราได้ดูกลุ่มผู้กล้ากลุ่มหนึ่งที่ยืนหยัดทำหน้าที่ของตัวเองได้ดี

 

ฉากที่ชอบมากในเรื่องนี้…ยกให้ฉากปะทะแบบ Non stop ซึ่งฉากนี้เป็นการเปิดฉากบู๊ระห่ำอย่างต่อเนื่องมากกกก เปิดฉากยิงจากที่พำนักฑูตระหว่างทีมฑูตหลบหนีจะไปฐานลับ ก็ยังมีฉากรถทีมบอดี้การ์ดโดนถล่มอีก เป็นอีกฉากที่ลุ้นตัวเกร็งอยู่เหมือนกัน และเปิดฉากปะทะจนไปถึงหลังหลบเข้าฐานลับได้

 

มันส์ต่อเนื่องจริง ๆ แถมเบื้องหลังหนังเรื่องนี้ได้อดีตผู้ที่อยู่ในทีม6พระกาฬ ตัวจริงที่อยู่เหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาบอกเล่าเสริมอรรถรส และมาติวฉากปะทะให้ทำให้สมจริงขึ้น เมื่อดูเบื้องหลังทำให้ตัวเราอยากดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างมาก

 

“13 Hours : The Secret Soldiers of Benghazi – 13 ชม. ทหารลับแห่งเบงกาซี” หนังแนวแอคชั่น สงคราม ทริลเลอร์ จากค่ายพาราเมาต์ พิกเจอส์ (Paramount Pictures) ความยาว 2 ชม. นิด ๆ หนังสร้างมาจากเรื่องจริง จากความไม่สงบระหว่างลิเบียและอเมริกา หากในเนื้อหาสปอยส์ข้ามตอนสำคัญ

 

ตรงไหนไปขออภัยด้วยครับ หนังเรื่องนี้หากให้คะแนน ก็ให้ 9/10 ไปเลย (ฉากปะทะดีสมจริงมาก) หากใครไม่เคยหนังเรื่องและอยากดูก็หาดูตามเว็บต่าง ๆ ได้เลยครับ มันส์มากขึ้นแท่นหนังสงครามแนวหน้ากันเลยทีเดียว

 

าพยนตร์เรื่องนี้เริ่มต้นด้วย Jack Da Silva ผู้รับเหมาทหารส่วนตัวที่เดินทางมาถึง Benghazi แจ็คผู้มาใหม่เข้าร่วมทีมของอดีตทหารที่รักษาความปลอดภัยให้กับ CIA ที่แอบแฝง บริเวณใกล้เคียงเป็นด่านหน้าทางการทูตของสหรัฐฯ ที่จัดตั้งขึ้นใหม่

 

เมื่อสถานการณ์การเมืองในท้องถิ่นแย่ลงอย่างกะทันหัน เอกอัครราชทูตเจ. คริสโตเฟอร์ สตีเวนส์พบว่าด่านทางการทูตของเขาถูกโจมตีโดยกลุ่มอิสลามหัวรุนแรงและชาวบ้านที่โกรธจัด แจ็คและทีมอดีตทหารของเขาตระหนักว่าพวกเขาเป็นบุคลากรเพียงคนเดียวบนพื้นดินที่สามารถทำภารกิจกู้ภัยเพื่อช่วยเอกอัครราชทูตได้ ทีมชายหกคนต้องต่อสู้ไปตามถนนเพื่อไปถึงด่านที่ถูกปิดล้อม

 

ระหว่างการโจมตีอาคาร Ambassadors ที่ภาพยนตร์เปลี่ยนเกียร์ ผู้กำกับ Michael Bay จัดการฉากต่อสู้ได้อย่างน่าประทับใจ ซีเควนซ์เหล่านี้มีพลังอันบ้าคลั่งที่กวาดสายตาผู้ชมไป ฉากต่างๆ ชวนให้นึกถึงงานก่อนหน้าของเบย์ในแฟรนไชส์ ​​Transformers

 

นักวิจารณ์บ่นว่า 13 ชั่วโมงขาดความแตกต่างกันนิดหน่อย จริงค่ะ หนังเรื่องนี้ไม่มีความลึกของ ‘Blackhawk Down’ หรือ ‘สัตว์ร้ายไม่มีชาติ’. แต่นั่นไม่ได้ทำให้หนังเรื่องนี้แย่เสมอไป ตรงกันข้าม ฉันชอบมันมาก แม้จะมีบทสนทนาที่อ่อนแอและถ้อยคำที่เบื่อหูเป็นครั้งคราว รู้สึกเหมือนหนังสงครามแฟชั่นเก่าที่ดี ไม่มีอะไรที่เป็นการล้อเลียนการเมืองมากเกินไป ภาพยนตร์เรื่องนี้เต็มไปด้วยแอ็กชันที่ไร้ยางอายและไม่เคยแสร้งทำเป็นว่าเป็นอะไรอื่นนอกจากสิ่งที่เป็นอยู่

รีวิว 13 Hours

รีวิว 13 Hours ความรู้สึกหลังดู

หากคุณต้องการหนังสงครามที่กระตุ้นความคิด ให้ลอง Generation War ที่ยอดเยี่ยม (รีวิวที่นี่). อย่างไรก็ตาม หากคุณต้องการงานแสดงหัวข้อย่อยที่เติมฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ให้ดู 13 ชั่วโมง

 

หลังจากฝากผลงาน Transformers ตั้งแต่ภาค 1-4 มาติดต่อกัน ในช่วงระหว่างรอ Transformers 5 ที่กำลังจะมาถึงในปี 2017 นี้ ผู้กำกับหนุ่มฝีมือเยี่ยมอย่าง “ไมเคิล เบย์ (Michael Bay)” ก็ขอเปลี่ยนแนวสมครามจากหุ่นยนตร์กลายร่าง มาเป็นบอกเล่าเรื่องราวในสมรถูมิการก่อการร้ายที่เกิดขึ้น

 

ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในเบนกาซี ประเทศลิเบีย เมื่อปี 2012 ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงครบรอบเหตุการณ์ 11 กันยายน และเป็นเหตุให้ “คริสโตเฟอร์ สตีเฟ่น” เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำลิเบีย และคณะตัวแทนทูตอีกสามคน ณ ขณะนั้น ต้องเสียชีวิต จากเหตุการณ์โจมตีนี้

 

13 Hours: The Secret Soldiers of Benghazi ดัดแปลงจากหนังสือ 13 Hours โดย “มิทเชล ซัคคอฟ (Mitchell Zuckoff)” ซึ่งเป็นผู้ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่านั้น และได้ “ชัค โฮแกน” ผู้เขียน The Strain และ The Town มารับหน้าที่ดัดแปลงเป็นบทหนัง

 

ทั้งนี้ยังได้ “เจมส์ เบดจ์ เดล (James Badgett Dale)” จาก Iron Man 3, “จอห์น กราซินสกี้”, “พาโบล ชไรเบอร์”, “โทบี้ สตีเฟ่น”, “โดมินิก ฟูมูซา”, “เดวิด เดนแมน” และ “แม็กซ์ มาร์ตินี” รับบททหารทั้ง 6 นาย

บอกเล่าเรื่องราวภารกิจสุดอันตรายในสถานการณ์วิกฤตของ 6 นายทหาร อดีตพลระดับพระกาฬ กับความพยายามบุกช่วยเหลือตัวประกัน 36 คน ซึ่งล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ประจำสถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ในเบนกาซี ประเทศลิเบีย หลังเกิดเหตุการณ์กลุ่มผู้ก่อการร้ายบุกเข้าโจมตีพร้อมอาวุธครบมือ ในช่วงครบรอบเหตุการณ์ 11 กันยายน ปี 2012

 

โดยนอกเหนือจากต้องเสี่ยงชีวิตในความพยายามต่อสู้ และตอบโต้การโจมตีทุกวิถีทาง ที่ผู้ก่อการร้ายบุกเข้ามาทุกทิศทุกทางแล้ว พวกเขายังต้องรับมือกับสถานการณ์ผิดพลาดที่ไม่เป็นอย่างที่คิด ภายในระยะเวลาที่มีจำกัดเพียง 13 ชั่วโมง เพื่อให้สามารถรักษาชีวิตของพลเรือนได้มากที่สุดอีกด้วย

 

เหตุการณ์ความตึงเครียดที่มีชีวิตผู้บริสุทธิ์เป็นเดิมพันนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามความเข้มข้นของหนังทุนสร้าง 30-40 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ที่มีชื่อ “ไมเคิล เบย์” ค้ำประกันความมันส์เรื่องนี้ได้ 28 มกราคมนี้ ในโรงภาพยนตร์. รีวิวหนังบู๊