รีวิว บ๊ายบายแม่จ๋า

ปกติเราไม่เคยดูซีรีย์เรื่องนี้ แต่ด้วยความที่ซีรีย์เรื่องนี้เนื้อเรื่องน่าสนใจ เลยหันมาดู ซึ่งจำไม่ได้แล้วว่านานขนาดไหนแล้วที่ไม่ได้ดูซีรีส์แนวนี้  เพราะโดยปกติตัวเลือกแรกๆของดูไปบ่นไปมักจะเลือกดูประมาณแนวสืบสวนสอบสวนเข้มๆ เดาทางยากๆหรือหักมุมจนอ้าปากค้าง ดูได้ที่ ดูหนัง

 

รีวิว บ๊ายบายแม่จ๋า

 

แต่เมื่อได้ยินกิตติศัพท์คำร่ำลือในสื่อต่างๆ (ณ ตอนนั้น เมื่อสองปีที่แล้ว) ว่าซีรีส์เรื่องนี้มีดีกว่าที่เห็นตามหน้าเสื่อ  แต่เมื่อครั้งกระนู้นผู้เขียนยังมีอุปนิสัยบางประการในการดูซีรีส์คือจะไม่ดูออนแอร์สด  ซึ่งตอนนั้นทาง NETFLIX สตรีมสดเป็นรายสัปดาห์พร้อมกับทางเกาหลีแล้ว  แต่ด้วยความที่ผู้เขียนไม่อยากรอคอยและอยากดูต่อเนื่องกันเพราะการดูต่อเนื่องกันมันสามารถเห็นรายละเอียดการเชื่อมโยงมิติบางอย่างชัดกว่า

และแน่นอนวัฒนธรรมการสปอยล์เนื้อหายังไม่รุนแรงเหมือนวันนี้  ที่สุดแท้จะหลีกเลี่ยงกันยังไงในปัจจุบันเพราะผู้เขียนก็พอเข้าใจได้ว่าเนื้อหาที่ดูสดในแต่ละสัปดาห์กับซีรีส์ชั้นดีนั้น  มักจะสร้างความประทับใจจนอัดอั้นอยากพูดคุยกับคนรู้ใจสักคน

แต่กับเรื่องนี้เมื่อตอนนั้นก็มีเพียงแต่ไม่รุนแรงมากเลยสามารถรอดูรวดเดียวได้  ผิดกับตอนนี้ที่ดูไปบ่นไปดูออนแอร์สดอยู่สองเรื่อง  และสหรับเรื่องนี้ในเวลานั้นการรอคอยที่ยาวนานให้ซีรีส์ครบทุกตอนทำให้ได้สัมผัสเรื่องราวอย่างต่อเนื่อง ได้มอบความรู้สึกที่คุ้มค่ากับเรื่องของโอกาสที่สอง  เรื่องของความรักในหลากหลายมุมมอง  เรื่องของการยอมรับความตายและการจากลา  และเรื่องของการปล่อยมือเพื่อที่จะเดินต่อไป

และด้วยเนื้อหาของซีรีส์มีแง่คิดและมุมมองในการใช้ชีวิตที่แหลมคมจึงไม่สามารถเขียนโดยไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญได้  หากท่านที่ยังไม่ได้ดูและประสงค์ที่จะดูแบบอรรถรสเต็มร้อย  หรือไม่สะดวกใจที่จะรับทราบเนื้อหาบางประการก็ข้ามบทความนี้ไปก่อนได้  ด้วยเรื่องของผีสาวชายูรี (คิมแตฮี) ที่ต้องตายจากอุบัติเหตุเมื่อตอนใกล้คลอดและทิ้งลูกน้อยให้มีชีวิตอยู่กับสามีที่เธอรัก    ไปดูกันเลยที่ เว็บดูหนังฟรี

 

รีวิว บ๊ายบายแม่จ๋า

 

แต่เธอกลับปล่อยวางไม่ได้จึงไม่ยอมจากไปสู่ภพภูมิที่ถูกที่ควร  เธอจึงยังวนเวียนเฝ้าดูสามีและลูกน้อยรวมทั้งครอบครัว  คอยอยู่ใกล้และเฝ้ามองคนที่เธอรักอยู่ตลอดมา  เพื่อให้ได้เห็นและได้รับรู้ความเป็นไปของคนที่เธอรักเหล่านั้น

ในส่วนสามีของเธอโชคังฮวา (อีคยูฮยอง) แต่งงานใหม่กับโอมินจอง (โกโพคยอล) และใช้ชีวิตต่อไปตามครรลอง  แต่ความที่วิญญาณของชายูรียังวนเวียนอยู่ไกล้ๆโชซออู (ซออูจิน) ลูกน้อยที่น่ารักของเธอจึงกลายมาเป็นเด็กเห็นผี จนในวันที่ซออูโตขึ้นชายูรีกลับพบว่าลูกของเธอผิดปกติ  แล้วในวันหนึ่งเมื่อลูกมีภัย
แต่เธอกลับไม่สามารถช่วยลูกได้ สุดท้ายในตอนที่อับจนหนทาง  การก่นด่าการร่ำร้องต่อพระเจ้าที่โหดร้ายกับเธอกลับกลายเป็นพรหรือการลงทัณฑ์ก็ไม่อาจทราบได้ที่ให้เธอกลับมาเป็นมนุษย์ได้เพียงสี่สิบเก้าวัน โดยมีเงื่อนไขว่าเธอต้องกลับไปอยู่ในที่เดิมของเธอแล้วจะมีชีวิตอยู่ต่อไปได้ด้วยการเป็นมนุษย์อีกครั้ง
แต่ทว่าที่ตรงนั้นของเธอกลับมีคนอื่นอยู่แล้วนั่นคือโอมินจองที่เป็นทั้งภรรยาของโชคังฮวาและเป็นคนที่ซออูเรียกว่าแม่ และนั่นทำให้สี่สิบเก้าวันที่มีอยู่เป็นโอกาสของเธอที่จะสางสิ่งที่ค้างคาใจ  และเมื่อสุดท้ายคนที่ได้โอกาสที่สองจะโลภมากอยากเป็นคนต่อไปแต่นั่นคือการที่ต้องแลกกับอะไรบ้างอย่างที่ชายูรีไม่ยอมแลก
และทำให้ซีรีส์สรุปลงอย่างสวยงามทั้งในมุมความเป็นแม่  ในมุมของการเป็นลูก  แง่มุมที่จะปล่อยผ่านเรื่องราวในอดีต  แง่มุมของคนรักที่เสียสละ  และสุดท้ายการจากลาหาได้โศกเศร้าเสมอไปเมื่อคนที่ยังอยู่ได้ปล่อยวางและปล่อยมือ  แล้วคนที่จะไปไม่มีอะไรค้างคาก็คือความงดงามที่ซออูจะเอ่ยว่าบ๊ายบายแม่จ๋าในตอนท้าย
กระนั้นนี่คือซีรีส์ที่มีแง่มุมที่ฉลาดในการชวนให้คิดตามมากมาย ทั้งที่น่าจะเป็นเรื่องโศกเศร้าเคล้าน้ำตาแต่กลับเสนอในโทนเบาและมองในมุมสวยงาม  นี่คือซีรีส์ที่ไม่มีตัวร้ายไม่มีเรื่องราวร้ายรุนแรงแต่ทำไมมันถึงสนุกและชวนติดตามได้ในทุกตอนคำตอบอยู่ที่บทและการเล่าเรื่อง  แม้ว่าใน ปัจจุบันผู้เขียนได้ดูซีรีส์เกาหลีมากขึ้นอาจคุ้นชินกับการที่เรื่องราวที่เล่าไม่มีตัวร้ายหรือไม่มีเรื่องร้ายๆแบบมรสุม
แต่เมื่อตอนนั้นผู้เขียนก็ต้องสารภาพว่านึกไม่ออกเช่นกันว่าได้ดูซีรีส์ที่ไม่มีตัวร้ายเรื่องสุดท้ายตอนไหนและเรื่องอะไร  ความดีงามของเรื่องนี้คือการให้แง่มุมความคิดที่คมคายในทุกตอน  ตัวละครทุกตัวทุกคนนอกเหนือจากตัวเอกอย่างชายูรีโชคังฮวา หรือโอมินจองล้วนแล้วแต่มีปมในใจไม่สามารถปล่อยวางได้

ตัวอย่าง เช่นแก๊งเพื่อนผีของชายูรีที่สถานที่เก็บอัฐิกลับเป็นเรื่องรองที่มาในความขบขันและเศร้าซึ้ง  แบบที่คนดูต้องรับทราบแง่มุมชีวิตจากการที่ผีที่ไม่ยอมไปเกิดเพราะยังมีอะไรคาใจ  มีห่วงหรือปล่อยวางไม่ได้กันแน่  สุดท้ายแม้อาจมีบางคนได้สะสางเรื่องค้างคาแต่บางคนก็เลือกที่จะเจ็บปวดที่ได้เห็นความเป็นไปของคนที่ตัวเองรักใช้ชีวิตอยู่เบื้องหลังก็สุดแท้

แต่การตัดสินใจ  ทำให้มีความเข้มข้นในประเด็นเรื่องครอบครัวที่ครอบครัวของชายูรีมีแม่เป็นผู้นำ  แม่ที่ดูเหมือนจะเข้มแข็งภายนอกแต่แท้จริงแล้วตัวเองกลับเป็นคนที่อ่อนแอที่สุดจากเบื้องลึกในใจ

ด้วยการกระทำและท่าทีขึงขังใจร้ายไม่ยอมให้คนในครอบครัวติดต่อกับอดีตลูกเขยและหลานล้วนแต่มีสาเหตุและนั่นคือความเจ็บปวด  ความอ่อนแอภายในและความยึดติดความคิดถึงลูกของผู้เป็นแม่กลับนำพาพรอันวิเศษที่ให้โอกาสที่สองที่จะได้โอบกอดและบอกลาลูกอีกครั้งและเยียวยาหัวใจที่ร้าวรานของตัวแม่เอง  ตาที่ถูกกีดกันไม่ให้ได้เจอกับหลานที่เป็นดั่งตัวแทนของลูกมันคือความเจ็บปวดทรมาน

แต่นั่นไม่ทรมานเท่าการที่ต้องมาเสียลูกไปก่อนตัวเอง  ชายูรีเองก็ไม่ต่างกันเมื่อตัวเรื่องเผยให้เห็นว่าเธอรับรู้และรับทราบความเจ็บปวดของครอบครัวของเธอเสมอมาแต่เมื่อนั้นเธอยังทำอะไรไม่ได้

ซึ่งโชคังฮวาคือคนที่เสียคนที่รักดั่งดวงใจไปและเฝ้าโทษตัวเองในการสูญเสียนั้นจนกระทั่งตัวเองป่วยจนไม่อาจเข้าห้องผ่าตัดได้อีก  ฉากหน้าที่ดูคล้ายคนปกติใช้ชีวิตตามครรลองแต่ถูกกลบทับไว้ด้วยความยึดติดคิดถึงเมื่อเขาไม่ยอมเข้ารับการรักษาอาการป่วยเนื่องเพราะกลัวว่าถ้าหายแล้วเขาจะลืมชายูรีไป  ความครุ่นคิดคำนึงตลอดมาคือสิ่งที่ยึดเหนี่ยวหัวใจเขาไว้ให้มีชีวิตอยู่นอกเหนือจากซออู

แล้ววันหนึ่งเมื่อยูรีกลับมามีชีวิตนั่นคือโอกาสที่สองที่เขาจะมีชีวิตอยู่ด้วยความหวังแต่นั่นกลับทำร้ายคนที่รักเขา  คนที่อยู่เคียงข้างเขาในฐานะภรรยาและแม่ของซออูเสมอมา  มิติที่ลึกหลากหลายและคมคายถ้าคิดตามแบบนี้อีคยูฮยองถ่ายทอดออกมาแบบไร้ที่ติ

ในส่วนโอมินจองนั้นถึงที่สุดแล้วคนที่น่าสงสารจับใจก็คือโอมินจอง เธอคือผู้ที่เป็นเช่นผู้ถูกกระทำและผู้ชมอาจต้องมานั่งตั้งคำถามว่าเธอผิดอะไร  เธอแค่รักโชคังฮวาหมดใจและเป็นแม่ที่ดีที่สุดสำหรับซออูกับสถานการณ์ได้ใจแต่ไม่ทั้งหมดเพราะยังมีใจอีกบางห้องที่โชคังฮวาปิดล็อคไว้  และเมื่อชายูรีกลับมาทุกคนกลับทำเหมือนว่าเธอคือคนผิดที่เข้าไปแทนที่ชายูรี สุดท้ายเมื่อถึงเวลาทุกคนก็ไม่สามารถกล่าวโทษเธอได้จึงได้

แต่พร่ำคำว่าขอโทษ  แต่นั่นกลับกลายเป็นซ้ำเติมหัวใจของเธอให้แหลกสลายเพราะเธอไม่ได้ทำผิดอะไร  และเธอไม่ใช่นางร้ายเธอยังยินดีที่จะจากไปหากทำให้ทุกคนมีความสุขและมอบแม่แท้ๆให้กับซออู แม้ว่าเธอต้องใจสลายก็ตาม  และคนดูก็สงสารเธอจับใจเพราะการแสดงที่ไร้ที่ติของโกโพคยอล ติดตามการรีวิวได้ที่ รีวิวหนังออนไลน์

 

 

และส่วนที่เป็นตัวคุมเกมและแจกจ่ายอารมณ์ให้กับผู้ชมต้องยกเครดิตให้กับตัวแม่อีกคนของวงการคิมแตฮีคิมแตฮีคือตัวเดินเรื่องที่สมบูรณ์แบบที่มอบมิติตัวละครที่ลึกและหลากหลาย  เป็นแม่ที่มีความสุขบนความเจ็บปวด  เป็นลูกที่ดีที่มีความเจ็บปวดบนความสุข  การได้รับโอกาสที่สองเพื่อสางเรื่องราวบางอย่างที่เป็นเหมือนพรจากพระเจ้าจึงเริ่มจากความลิงโลด

แต่เมื่อถึงที่สุดสัจธรรมและความเป็นจริงในชีวิตหลังการจากไปของคนคนหนึ่งก็ทำให้ได้รู้ว่ามันคือการลงทัณฑ์ที่เมื่อตายแล้วแต่ไม่ยอมปลดปลง  อารมณ์สับสน  อารมณ์เปี่ยมสุข  อารมณ์เจ็บปวด  และอารมณ์รู้สำนึกเพื่อเดินจากไปด้วยรอยยิ้ม  สีหน้าแววตาที่อิ่มเอมเมื่อในใจได้ปล่อยวางแล้วถูกถ่ายทอดอย่างไร้ที่ติโดยคิมแตฮี

ซึ่งทั้งยังต้องยกนิ้วให้ความไร้ที่ติของนักแสดงสมทบ (หรือเปล่า) อย่างคิมมีคยองในบทแม่ผู้เป็นช้างเท้าหน้าและแข็งนอกอ่อนใน ซออูจินในบทซออูที่ความน่ารักและเป็นธรรมชาติได้สร้างมิติความเป็นลูกที่พ่อแม่ต้องหลง  ทำให้การเล่าเรื่องในแง่มุมแบบนี้มีน้ำหนักที่หนักแน่นและทำให้เรื่องเดินไปข้างหน้าอย่างได้ใจ  เข้าถึงอารมณ์ความรู้สึก

และเข้าไปยนั่งในหัวใจผู้ชม  ทั้งนี้ยังต้องรวมถึงเหล่านักแสดงสมทบ (จริงๆ) ทุกคน  ย้ำ  ทุกคนในเรื่องที่มอบมิติที่หลากหลายให้ผู้ชมสัมผัสได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งแก๊งคุณผีเพื่อนของชายูรีในอัฐิสถานที่มอบมิติทางหัวใจให้สัมผัสได้ผ่านการแสดงทีไร้ที่ติเช่นกันแม้จะเป็นเพียงบทเล็กบทน้อยก็ไม่เว้น

ในระยะเวลาตลอดสิบหกตอนของเรื่องนี้ที่อาจเล่าแบบโทนเบาๆให้ได้ยิ้มทุกตอน แต่ก็ซาบซึ้งน้ำตาคลอหรือขอบตาอุ่นทุกตอนเช่นกัน  ด้วยประเด็นความรักของแม่ที่เข้มจัดมาพร้อมความรักของลูกที่ไม่อาจดูแลพ่อแม่ได้อีกต่อไป  เสริมด้วยเรื่องความเป็นเพื่อนทั้งจากผีและคน  ประเด็นของการปล่อยวางและเดินหน้าใช้ชีวิตต่อไปทั้งมุมมองของคนที่ต้องปล่อยมือเมื่อคนที่เรารักจากไป

แต่เรายังต้องมีชีวิตอยู่ต่อ  มุมมองของคนที่ตายไปที่ไม่อาจปล่อยวางเรื่องราวที่ตนเองยังห่วงอยู่และไม่ยอมปล่อยมือ  จนกระทั่งได้รับรู้ว่ายิ่งอยู่ยิ่งได้เห็นอะไรที่โหดร้ายมากขึ้น  เจ็บปวดมากขึ้น  เมื่อการใช้ชีวิตอยู่ของคนข้างหลังไม่ได้สวยงามเสมอไป

ในเรื่องของประเด็นเรื่องราวของโอกาสที่สองที่ได้รับที่เราเลือกจะใช้มันยังไง  จะใช้มันเพื่อหาความสุขใส่ตัวหรือสร้างความสุขให้กับคนอื่น  ซึ่งสำหรับชายูรีแล้วอาจมีบ้างที่หาความสุขใส่ตัวและโลภที่จะอยู่ต่อไป  แต่เมื่อถึงเวลาต้องเลือกเธอเลือกที่จะเยียวยาหัวใจคนข้างหลังให้อยู่ต่อไปอย่างมีความสุข

และไม่ยึดติดกับการจากไปของเธอ  ได้ทำในสิ่งที่ค้างคากับคนที่เธอรักและแล้วจากลาไปอย่างสวยงาม  และสุดท้ายเรื่องที่ไม่มีตัวร้ายก็สรุปลงอย่างซาบซึ้งและประทับใจและลืมไม่ได้สำหรับความน่ารักของหนูน้อยโชซออูที่ผนวกกับเสน่ห์ของนักแสดงทุกคนที่ได้ใจคนดูทำให้ดูสนุกและเพลิน

สุดท้ายนี้แถมด้วยงานด้านภาพสวยๆนำเสนอผีในมุมขบขันน่ารักทำให้ดูได้ทั้งครอบครัว  ถึงแม้ส่วนตัวแล้วยังมองเห็นเรื่องของการทิ้งบางประเด็นไปแบบไม่น่าพลาดหรือเรื่องของเงื่อนเวลา  กับความซาบซึ้งกินใจที่บางทีมองเห็นริ้วรอยของการบีบหรือคั้นน้ำตา  แต่นั่นอาจเพราะนี่คือซีรีส์ที่เป็นเรื่องยาวคงเป็นไปได้ยากที่จะไม่มีให้หลุดบ้าง

แต่ภาพรวมคือซีรีส์ที่บทอยู่ในระดับงานดี  สมูธ  ไม่ต้องใช้ความรุนแรงมาเร่งไม่ต้องซับซ้อนด้วยเรื่องราวที่ดูปราดเดียวก็เดาออกแม้จะมีหักมุมบ้างแต่ไม่แรงมาก  ทำให้ไม่ว่ายังไงนี่ก็คืองานชั้นดีที่คนเป็นแม่ต้องดู  คนเป็นลูกต้องดู  คนเป็นสามีต้องดู  คนเป็นภรรยาต้องดู  คนเป็นเพื่อนต้องดู  เพราะนี่คืออีกหนึ่งในซีรีส์ที่คู่ควรต้องดู

รีวิว บ๊ายบายแม่จ๋า

ซึ่งเอาเป็นว่าฉันไม่แน่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเริ่มดูรายการนี้ แต่ฉันดีใจที่ได้พบใน Netflix! ฉันเพิ่งเริ่มดูละครเกาหลีและซีรีส์นี้เป็นการพักที่ดีจากละครเกาหลีเรื่องอื่นๆ ที่ฉันเพิ่งเริ่มดูในที่ที่มีคนด่าทอทางอารมณ์ ทางร่างกาย หรือทางวาจา  ไปรับชมที่ ดูหนังฟรี

 

 

ในละครเรื่องนี้มีองค์ประกอบของมุมมองที่ดีและสมจริงของชีวิตหลังจากสูญเสียบางสิ่งที่พิเศษไป ฉันหัวเราะ ร้องไห้ และรู้สึกสำนึกบุญคุณต่อชีวิตและความตายอีกครั้ง ฉันจะเสียใจ (แดกดัน) เมื่อซีรีส์นี้จบลง

ฉันจะเริ่มด้วยการบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่ต้องร้องไห้ขณะดูภาพยนตร์หรือรายการทีวี และถ้าฉันร้องไห้ ส่วนใหญ่จะเป็นแค่น้ำตาเล็กน้อย “สวัสดีครับคุณแม่!” ทำให้ฉันร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน้อยหนึ่งครั้งตอน

“สวัสดีครับคุณแม่!” เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุและคนที่รักของเธอ และวิธีที่เธอใช้เวลาห้าปีที่ผ่านมาในฐานะผีเฝ้ามอง สามีของเธอต้องรับมือกับความเศร้าโศกที่ทำให้จิตใจชาจนชาและแต่งงานใหม่ได้ในที่สุด กระทั่งคืนหนึ่งที่เธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันใด

ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้รายการนี้มีอิทธิพลต่อฉันมากคือการแสดง แม้จะไม่ค่อยเข้าใจภาษาเกาหลี แต่อารมณ์ที่ดิบและทรงพลังที่นักแสดงแสดงนั้นโดดเด่นและโดยไม่รู้ภาษา อารมณ์ที่แสดงออกมาเป็นจุดสนใจหลักสำหรับฉัน แทนที่จะเป็นสิ่งที่กำลังพูด

การแสดงยังมีช่วงเวลาที่สดใสมากขึ้นด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และผู้คนที่รู้สึกสบายใจ แต่สำหรับฉัน สิ่งที่ทำให้รายการนี้โดดเด่นคือการแสดงภาพที่ยิ่งใหญ่ของการสูญเสียและการเผชิญปัญหา และความสิ้นหวังที่มาพร้อมกับการแสดง เรื่องรองบางเรื่องบางครั้งรู้สึกเร่งรีบและพวกเขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เนื่องจากบางครั้งฉันรู้สึกในตอนท้ายว่าการแสดงช้าลงเล็กน้อย ในที่สุดก็มีตอนจบที่เหมาะสมและเขียนได้ดีซึ่งทำให้ผู้ชมและตัวละครปิดตัวลง

โดยรวมแล้ว นี่เป็นหนึ่งในรายการทีวีที่ฉันโปรดปรานที่สุดที่ฉันเคยดูมา และฉันบอกว่าแม้จะไม่ใช่ผู้ดูละครเกาหลีตัวยงก็ตาม ฉันกำลังเขียนรีวิวนี้ 24 ชั่วโมงหลังจากจบการแสดง และฉันยังรู้สึกสั่นเล็กน้อยถึงผลกระทบที่มีต่อฉันและความจริงที่ว่าบางฉากยังทำให้ฉันน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงพวกเขา ดูได้ที่  ดูหนังออนไลน์ฟรี 2021 เต็มเรื่อง พากย์ไทย

“สวัสดีครับคุณแม่!” เต็มไปด้วยข้อความซึ้งๆ ซึ้งๆ เกี่ยวกับครอบครัว มิตรภาพ และความรัก และผมขอแนะนำให้ทุกคนได้ดู อย่าลืมเตรียมกล่องทิชชู่ไว้ให้พร้อม การแสดงนี้ฉันจะแนบชิดหัวใจไปนานๆ อย่างแน่นอน

กระนั้นใน 16 ตอนที่ 16 ที่อาจถูกตัดให้เหลือ 10 ตอนที่เป็นไปได้! ฉันไม่เคยเห็นการแสดงมาก่อนฉากการเลือกตั้งครั้งนั้นมากมาย และทำสิ่งเดิมซ้ำแล้วซ้ำเล่า! นั่นทำให้การแสดงรู้สึกเหมือนกำลังลุยโคลน และบอกตามตรงว่าผมข้ามผ่านมันไปอย่างรวดเร็ว! นั่นคือปัญหาแรก แต่ใหญ่แค่ไหนก็น่าเสียดาย! ปัญหาที่เลวร้ายที่สุดคือโครงเรื่อง! มันเริ่มต้นด้วยเรื่องสบายๆ บางครั้งก็ตลก

แล้วก็ประมาณห้าตอน ทุกอย่างก็ดูไม่ออก! มันหนักหน่วง เศร้า ซึ้ง และพวกเขาก็เริ่มโยนสิ่งต่าง ๆ เข้าไปในเนื้อเรื่องที่ไม่จบลงด้วยอะไร ทำให้มีสามัญสำนึก และตัวละครที่สำคัญก็ปรากฏขึ้นและหายไป! ตัวอย่างเช่น หมอผีบอกเธอว่าถ้าเธอต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ เธอต้องเอาชีวิตของเธอกลับคืนมา ลูกสาว สามี เธอรู้ได้ยังไง? ทันใดนั้น เธอบอกเธอว่าถ้าทำอย่างนั้น ลูกสาวของเธอก็จะได้เห็นผีไปตลอดชีวิต

และหมอผีคนนี้ที่ถือไม้บูมบูมจะพาเธอไปฝึกเธอเป็นหมอผี แล้วชาเมนจะแย่ตรงไหน? แต่แล้วหมอผีก็หายวับไปจากภาพ ไม่เคยเห็นอีกเลย! แล้วจะบอกว่าอะไรจะเกิดขึ้น? ลูกสาวเลิกเห็นผี… แบบนั้นมันไม่สมเหตุสมผลเลย และมันก็ทำให้เรื่องทั้งหมดตกต่ำมากขึ้น! ดังนั้นหากคุณกำลังมองหา K-Drama ผีอารมณ์ดี นี่ไม่ใช่!

ความรู้สึกหลังดู

ฉันจะเริ่มด้วยการบอกว่าฉันไม่ใช่คนที่ต้องร้องไห้ขณะดูภาพยนตร์หรือรายการทีวี และถ้าฉันร้องไห้ ส่วนใหญ่จะเป็นแค่น้ำตาเล็กน้อย “สวัสดีครับคุณแม่!” ทำให้ฉันร้องไห้น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างน้อยหนึ่งครั้งตอน ดูหนังฟรีที่ เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง

 

 

“สวัสดีครับคุณแม่!” เรื่องราวเกี่ยวกับหญิงตั้งครรภ์ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุและคนที่รักของเธอ และวิธีที่เธอใช้เวลาห้าปีที่ผ่านมาในฐานะผีเฝ้ามอง สามีของเธอต้องรับมือกับความเศร้าโศกที่ทำให้จิตใจชาจนชาและแต่งงานใหม่ได้ในที่สุด กระทั่งคืนหนึ่งที่เธอฟื้นคืนชีพขึ้นมาทันใด

ฉันคิดว่าสิ่งที่ทำให้รายการนี้มีอิทธิพลต่อฉันมากคือการแสดง แม้จะไม่ค่อยเข้าใจภาษาเกาหลี แต่อารมณ์ที่ดิบและทรงพลังที่นักแสดงแสดงนั้นโดดเด่นและโดยไม่รู้ภาษา อารมณ์ที่แสดงออกมาเป็นจุดสนใจหลักสำหรับฉัน แทนที่จะเป็นสิ่งที่กำลังพูด

การแสดงยังมีช่วงเวลาที่สดใสมากขึ้นด้วยความสุข เสียงหัวเราะ และผู้คนที่รู้สึกสบายใจ แต่สำหรับฉัน สิ่งที่ทำให้รายการนี้โดดเด่นคือการแสดงภาพที่ยิ่งใหญ่ของการสูญเสียและการเผชิญปัญหา และความสิ้นหวังที่มาพร้อมกับการแสดง เรื่องรองบางเรื่องบางครั้งรู้สึกเร่งรีบและพวกเขาสามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ เนื่องจากบางครั้งฉันรู้สึกในตอนท้ายว่าการแสดงช้าลงเล็กน้อย ในที่สุดก็มีตอนจบที่เหมาะสมและเขียนได้ดีซึ่งทำให้ผู้ชมและตัวละครปิดตัวลง สามารถดูได้ที่ ดูหนังออนไลน์ฟรี 2022

 

 

โดยรวมแล้ว นี่เป็นหนึ่งในรายการทีวีที่ฉันโปรดปรานที่สุดที่ฉันเคยดูมา และฉันบอกว่าแม้จะไม่ใช่ผู้ดูละครเกาหลีตัวยงก็ตาม ฉันกำลังเขียนรีวิวนี้ 24 ชั่วโมงหลังจากจบการแสดง และฉันยังรู้สึกสั่นเล็กน้อยถึงผลกระทบที่มีต่อฉันและความจริงที่ว่าบางฉากยังทำให้ฉันน้ำตาไหลเมื่อคิดถึงพวกเขา

“สวัสดีครับคุณแม่!” เต็มไปด้วยข้อความซึ้งๆ ซึ้งๆ เกี่ยวกับครอบครัว มิตรภาพ และความรัก และผมขอแนะนำให้ทุกคนได้ดู อย่าลืมเตรียมกล่องทิชชู่ไว้ให้พร้อม การแสดงนี้ฉันจะแนบชิดหัวใจไปนานๆ อย่างแน่นอน

“สวัสดี ลาก่อนแม่!” น้ำตาซึมตลอด เรื่องราวเริ่มต้นด้วยข้อความหนักๆ แม้ว่าตัวละครหลักจะพยายามทำให้อารมณ์แจ่มใสขึ้นเล็กน้อย ถึงกระนั้น สถานที่ เนื้อเรื่องหลัก และแนวคิดทั้งหมดก็น่าเศร้า และคุณก็อดไม่ได้ที่จะได้อารมณ์ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

เพราะละครเรื่องนี้ยังคงส่งผลกระทบอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ผ่านไปซักพักก็เหนื่อยที่ได้เห็นนางเอกร้องไห้ไม่หยุดในทุกฉาก ไม่ใช่ว่าเธอไม่ได้น่าทึ่งและเข้าใจทุกฉากเหล่านี้ แต่มันก็มากเกินไปที่จะดูเป็นแถว

อีกอย่างที่ละครทำถูกต้องก็คือตอนจบ ตรงกลาง มันค่อนข้างจะล้นหลามที่จะจินตนาการถึงสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ผู้เขียนได้สรุปทุกอย่างไว้อย่างสวยงาม และปิดท้ายไม่เพียงแค่ตัวละครเท่านั้น แต่ยังรวมถึงผู้ชมด้วย น่าเสียดายที่เมื่อมองย้อนกลับไป ละครเรื่องนี้ใช้เนื้อเรื่องหลักมากเกินไป และในท้ายที่สุด รู้สึกเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ เป็นเพียงเนื้อเรื่องหลักและไม่มีอะไรอื่น

ถึงกระนั้นละครก็สนุกสนานจนถึงที่สุด สำหรับหมายเหตุข้างเคียง คงจะดีถ้าพวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าคู่หลักปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ อย่างไร ในที่สุด การแสดงก็ยอดเยี่ยมจากทุกคนในทีม ถ้าหากชื่นชอบการรีวิวของเราสามารถติดตามการรีวิวของเราได้ รีวิวหนังชีวิต