รีวิวหนัง เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ (My God Father) หนังไทยแนวตลกสุดฮา

และในวันนี้ผู้เขียนมีหนังตลก ฮา ๆ มารีวิว ให้เพื่อนๆ พี่ๆ ทุกคนได้ดู คลายเครียด แก้เหงา หรือผ่อนคลายในเวลาว่างหลังเลิกงานและเรียนหนังสือ ดังที่เพื่อน ๆ เห็นบนหน้าปกของบทความหนังกันแล้ว นั่นก็คือเรื่อง รีวิวหนัง เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ (My God Father) หนังที่แสดงโดย หนุ่มอารมณ์ดีอย่าง เต๋อ ฉันทวิชช์ และพระเอกหนุ่มหล่อหน้าคมเสน่ห์แรงอย่าง โป๊ป ธนวรรธน์ มาประกบคู่กับนางเอกสาวสวยตากลมสุดเซ็กซี่ แซมมี่ เคาวเวลล์ ดูตัวอย่างอย่างเดียวก็สนุกแล้ว มาดูกันดีกว่าว่ามีเนื้อหาว่าอย่างไรบ้าง ติดตามต่อได้ที่รีวิวด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

รีวิวหนังแอ็คชั่น เล่าเรื่องราวของ “ก๊อต” หนุ่มหล่อและแชมป์การแข่งรถทางเรียบ เขาอาศัยอยู่กับพ่อที่เขาไม่ได้รัก และคิดเสมอว่าเขาไม่รักเขา จนถึงวันที่ได้แชมป์สนามสุดท้ายของปีนี้ขับรถพาพ่อกลับบ้านขับรถไปเล่นตลกกับพ่อจนประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์

ให้เขาย้อนกลับไปปี 1998 ปีก่อนวันเกิดและพบกับพ่อของเขา “เปรม” ที่หล่อเหลาพอๆ กับลูกชายเมื่อตอนที่เขายังเด็ก แต่ตรงกันข้ามเขาเป็นหัวหน้าแก๊งที่เก็บค่าคุ้มครองจากร้านคาราโอเกะในนาม “แก๊งเจ้าโลก” เพราะชะตากรรมของเปรมกับคนหนุ่มสาว Gott จึงเปลี่ยน จาก “ลูกพ่อ” จึงได้กลายมาเป็น “ลูกเพ่”ไปซะนี่!

เรื่องนี้เป็นผลงานกำกับของ ผู้กำกับบุพเพสันนิวาส “ใหม่-ภวัต พนังคศิริ” 

ยุค 90 เป็นเพียงอดีต แต่ยังคงอยู่ในความทรงจำอันเป็นที่รักของผู้คนทุกวัย จนแม้แต่คนรุ่นใหม่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่ากลิ่นอายของยุค 90 เป็นอย่างไร ความรักของผู้คนยาวนานกว่าตอนนี้หรือไม่?

มิตรภาพระหว่างเพื่อนยังเหมือนเดิมมั้ย? จากทั้งหมดที่กล่าวมา คุณจะได้พบกับภาพยนตร์ที่ผู้เขียนนำมารีวิวในวันนี้นั่นก็คือเรื่อง เฮ้ย!ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ ดูหนังออนไลน์ 4k

เรื่องนี้เป็นหนังตลกที่การันตี โดยผู้กำกับ บุพเพสันนิวาส “ใหม่-ภวัต พนังคสิริ” ร่วมกับสองบริษัทภาพยนตร์โรแมนติก Transformation Pictures และ Mango Media ที่ได้สองนักแสดงนำอย่าง โป๊บ-ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ รับบท ลูกพ่อ ที่ชะตาพาเล่นตลกให้ย้อนอดีตไปเจอกับพ่อตัวเองสมัยยังเฟี้ยวฟ้าว เต๋อ-ฉันทวิชช์ ธนะเสวี รับบท ลูกเพ่

ซึ่งผลงานการกำกับภาพยนตร์ก่อนหน้านี้คือ นาคปรก (2553), หลุดสี่หลุด ตอน คืนจิตหลุด (2554) และ ตีสาม After Shock ตอน ทางด่วน (2561) ลิขิตรักข้ามดวงดาว, บ่วง, มัจจุราชสีน้ำผึ้ง รวมถึงเป็นผู้กำกับละครพีเรียดโคตรฮิตอย่าง บุพเพสันนิวาส อีกด้วย เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ เต็มเรื่อง

แม้ว่าตอนแรกผู้เขียนเองจะรู้สึกแปลก ๆ กับการจับคู่คนละขั้วของโป๊ปและเต๋อ แต่ก็ต้องยอมรับว่า คู่ดูโอ้ โป๊ป-เต๋อ เป็นคู่ที่ลงตัวกันสุดๆ เคมีเข้ากันดีมาก ที่สำคัญที่สุดคือการแสดงตลกของทั้งคู่เข้ากันได้ดีมาก และตัวภาพยนตร์เองก็เติมพลังด้วยอารมณ์ขันซิทคอม และธรรมชาติของทั้งสองเรื่อง แม้ว่าเรื่องตลกของป๊อปจะเป็นเรื่องตลกล็อคก็ตาม เน้นที่ เป็นนักแสดงตลกด้นสด แต่เรื่องตลกส่วนใหญ่ของพวกเขาก็เฮฮา แม้ว่าจะมีไข่มุกอยู่ในความมืดก็ตาม ดูหนัง4k

ส่วนที่จะไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือแซมมี่ ที่มารับงานภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นครั้งแรก แม้ว่าบางครั้งเธออาจไม่ได้เด่นขึ้นมาอย่างสุดวัฒนธรรม แต่ก็ต้องยอมรับว่าความน่ารักแบบลูกครึ่งของแซมมี่นั้นมีการแสดงออกในหน้าจอทีวีและจอใหญ่ได้ดีเท่ากัน ความน่ารักที่สดใสของเธอเหมือนน้ำตาลเคลือบที่ทำให้ภาพยนตร์นี้น่าดูมากขึ้น

ความหมายของหนังนี้คือผู้เขียนพบว่าเรื่องราวและการดำเนินเรื่องในหนังนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก ๆ ถึงแม้ว่าธีมหลักของเรื่องจะไม่ใหม่หรือเป็นเรื่องใหม่ การดูหนังนี้ยังคงเพลิดเพลินและไม่จำเป็นต้องใส่ใจถึงเรื่องราวหลัก นอกจากนี้หนังยังได้ใช้ภาพและการกล่าวถึงของโป๊ปและเต๋อเป็นตัวช่วยในการสร้างความติดตามเนื้อเรื่องที่น่าสนใจอย่างมากเช่นกัน ในกรณีที่ต้องการรับชมหนังเพื่อความสนุกสนาน การสนใจเนื้อเรื่องหลักอาจจะไม่จำเป็นเท่าไหร่แล้วก็ยังคงเป็นหนังที่น่าสนใจอยู่อย่างเดียว หนังใหม่4k

ต่อไปเรามาดูกันว่านักแสดงทั้งสามคนรับบทเป็นใคร คนแรกเลย เต๋อ ฉันทวิชช์  รับบทเป็น เปรม หรือ พี่ หัวหน้าแก๊งค์ที่หล่อและหล่อที่สุดแห่งโลก Cool Daddy Gangster Call De ตัวละครอีกตัวที่เราอาจจะไม่เคยเห็นและไม่เคยเห็นมาก่อน นี่เป็นอีกบทหนึ่งที่เราต้องหัวเราะกับผู้ชายคนนี้จริงๆ เพราะเขาหล่อ เท่ และตลกในเรื่องนี้ เฮ้ย ลูกเพ่ นี่ลูกพ่อ สรุป ตอนจบ

พระเอกหนุ่มหล่ออีกคนที่หล่อและเท่พอๆ กัน โป๊ป ธนวรรธน์ รับบท ก๊อต หรือ ลูกพ่อ นักแข่งรถสุดหล่อ ทรงพลัง และมีเสน่ห์มาก ย้อนอดีตได้นอกจากจะหล่อแล้วยังเป็นที่รู้จักในนามหนุ่มโป๊ปอีกด้วยและยังถือเป็นนักแสดงอีกคนที่มีมุมตลกอีกด้วย นอกจากนี้บทของ Gott ยังทำให้เราได้เห็นด้านเฮฮาของตัวเอกอีกด้วย

ต่อไปนางเอกของเรื่อง แซมมี่ โคเวลล์ รับบท แฟนของบิว หรือลูกพี่ สาวฮอตเจ้าของร้านคาราโอเกะ สวย น่ารัก ขี้เล่น มองยังไงก็หลงรักสาวคนนี้แน่นอน ลองพิจารณารับงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ นี่เป็นความท้าทายใหม่สำหรับอาชีพการแสดงของเธอ my god father thai movie

เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ไม่ซับซ้อน เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับพ่อลูกที่เข้ากันไม่ได้ เพราะความคับข้องใจในอดีต พ่ออย่างเปรม ล้มเหลวในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเคยเข้าคุกมาก่อน นอกจากนี้เขายังชอบทุบตีและทำร้ายเด็กอีกด้วย ส่วนลูกอย่างเก็ทก็มีปัญหามากมายและเมื่อพ่อเข้าคุกแม่ก็ฆ่าตัวตาย นอกจากนี้ เขายังถูกปล้นความฝันของพ่อที่จะเป็นนักแข่งรถอีกด้วย แต่แล้วก็อตและพ่อก็ประสบอุบัติเหตุใหญ่ สิ่งนี้ทำให้เขาจวนจะตาย

แนวคิดของหนังเรื่องนี้คือคนตายสามารถย้อนเวลากลับไปได้ ผมจึงต้องกลับไปพบกับพ่อในปี 1998 ซึ่งเป็นเด็กคนเดิม ตัวเองได้ค้นพบเรื่องราวที่พ่อแม่ของเขา (ซึ่งเขาไม่เคยพบมาก่อน) ต้องเผชิญเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก และต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เกิดเรื่องเลวร้ายเหมือนที่เขาและครอบครัวจะต้องเผชิญในอนาคต my god father cast

แต่ถึงแม้หนังเรื่องนี้จะน่าสนใจมาก แต่โดยส่วนตัวแล้วผู้เขียนรู้สึกว่ามีสองสิ่งที่เรารู้สึกขุ่นเคืองในหนังเรื่องนี้ ประเด็นแรกคือ ตัวหนังเองถูกกำหนดให้เป็นหนังเดินทางข้ามเวลา (ถึงแม้จะไม่ใช่แนวไซไฟที่อ้างตัวเองนักก็ตาม) ผู้เขียนก็แอบสงสัยว่าผู้กำกับหมายถึงแบบนั้น ฉากแต่งงานกับเปรมและบิวที่เป็นคนจัดงานแต่งงาน จากนั้นในงานแต่งงาน สก็อตต์ก็หยิบกีตาร์เดินขึ้นไปบนเวที และ… เราไม่ต้องการที่จะสปอยมัน แต่ผู้เขียนเชื่อว่าคนที่ดูภาพยนตร์เรื่อง Back to the Future (1985) คงจะถอนหายใจ

อีกประเด็นที่อยากทราบก็คือ หากย้อนกลับไปปี 1998 ตามข้อมูลในบทสรุป ก่อนปี 2000 ถือเป็นช่วงปลายยุค 90 แต่กลับกลายเป็นว่าทิศทางศิลปะและฉากต่างๆ ในภาพยนตร์ ส่วนมากจะล้าสมัยไปทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้า อาคารบ้านช่อง รถราพาหนะ ดันย้อนยุคไปในช่วงยุค 60’s ซะอย่างนั้น แถมสิ่งของที่เอามาเป็นพร็อพต่าง ๆ ก็มาอยู่ร่วมสมัยกันได้ยังไงก็ไม่รู้ 

เช่นเครื่องเพจเจอร์ที่คนเริ่มนิยมใช้ในยุค 80’s ทามาก็อตจิ (และนิตยสาร The Boy ปกทาทายัง) ที่ฮิตในยุค 90’s ภาพถ่ายสติกเกอร์ที่นิยมกันในหมู่วัยรุ่นช่วงปี 2000 หรือแม้แต่คำพูดติดปากของเปรม เช่นคำว่า จ๊าบ หรือสะแด่วแห้ว ฯลฯ อยู่รวมกันให้มั่วไปหมด จนทำให้ผู้เขียนเองก็งงว่า เอ๊ะ ตกลงนี่มันปี 2541 จริงเปล่าเนี่ย my god father trailer

อันนี้ผู้เขียนเองก็ได้แต่คิดไปว่า ผู้กำกับแกคงอยากนึกสนุก “ตั้งใจ” ผสมความเป็น Retro จากทุกยุคสมัยมากองไว้รวมกัน ให้ออกมาเป็นเรโทรแบบที่ดูไม่สมจริงเหมือนพิพิธภัณฑ์ของเก่าแบบนี้นั่นแหละนะ แปลว่า: ทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้า, อาคารบ้านช่อง, รถรางพาหนะ, ย้อนยุคกลับไปในยุค 60’s และสิ่งของต่าง ๆ ที่เป็นพร็อพใช้ในยุคนั้น มาอยู่ร่วมกันได้อย่างไม่เด่น โดยเช่นเครื่องเพจเจอร์ที่คนเริ่มนิยมใช้ในยุค 80’s แม้นิตยสาร The Boy และภาพถ่ายสติกเกอร์ที่เป็นที่นิยมในวัยรุ่นในยุค 90’s และคำพูดต่าง ๆ เช่นการพูด “จ๊าบ” หรือ “สะแด่วแห้ว” ทุกอย่างรวมกันไว้ในช่วงเวลาเดียวกัน 

จนทำให้ผู้เขียนเองสับสนว่าเอ๊ะ ตกลงแล้วปีนี้ก็เป็นปี 2541 จริงหรือเปล่า การนึกสนุกเกี่ยวกับการ “ตั้งใจ” และการผสมผสานความเป็น Retro โดยรวมๆ จากทุกยุคสมัยให้ออกมาเป็นเรโทรที่ดูไม่สมเจตนาเหมือนพิพิธภัณฑ์แบบเก่านี้นั่นเอง

ภาพยนตร์ที่มีองค์ประกอบต่าง ๆ เช่น การสร้างสรรค์ฉากโปรดักชั่นและการตั้งค่าฉากต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ชม และการนำฉากจากหนังย้อนเวลาในตำนานเข้ามาใช้ในเรื่องราวอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้เรื่องราวมีความน่าสนใจและเข้าใจได้ยากบ้าง

ในหนังเรื่องนี้มีสิ่งที่น่าสนใจอยู่บางอย่าง นั่นคือความโบ๊ะบ๊ะที่โป๊ป-เต๋อมี ซึ่งมีความไม่คาดฝันมากๆ เมื่อดูคู่นี้เราต้องยิ้มและขำออกเสียงได้บางครั้ง ส่วนแซมมี่นั้นน่ารักมาก แต่มีเรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจมากกว่า คือความใกล้ชิดของโป๊ปกับเต๋อ ที่เป็นเหตุให้เราเห็นว่าลูกเพ่และลูกพ่อมีความสัมพันธ์ที่ดีและเรารู้สึกถึงความคิดถึงพ่อและแม่บ้าง

โดยรวมนับว่าเป็นหนังตลกที่สนุกและคลายเครียด เนื่องจากมีการจับคู่นักแสดงโป๊ป-เต๋อมาเล่น ซึ่งคู่นี้ดูจะลงตัวอีกคู่หนึ่ง เพราะทั้งคู่มีการแสดงมุกตลกที่เข้ากันได้จริง ๆ โดยไม่มีใครยอมใคร การรับส่งมุกหรือเคมีของทั้งคู่นี้แสดงให้เห็นว่าเข้ากันได้อย่างธรรมชาติ อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์พ่อลูกในหนังที่ทำให้ผู้ชมมีความอินกันสูง โดยคงติดตามกันไปตามความเคลื่อนไหวของเรื่องราวอย่างแน่นอน

ส่วนตัวผู้เขียนให้คะแนน 9/10 แต่ถูกหักคะแนนเพราะฉากบางฉากที่ย้อนกลับไปดูโบราณกว่ายุค 90’s ดูทันสมัยกว่าสมัยที่ฉากนั้นเกิดขึ้น ทำให้ดูขัดแย้งและน่าสับสนบ้าง แต่ภาพรวมของหนังเรื่องนี้สร้างความตลกและเฮฮา สามารถเรียกให้เกิดเสียงหัวเราะและช่วยลดความเครียดได้ ดังนั้นสำหรับผู้ชมที่ต้องการรับชมเพื่อผ่อนคลายความเครียด บรรยากาศของหนังนี้ถือว่าโอเค